posttoday

เพื่อนบ้านสบช่อง ตีตลาดข้าวไทยแพง

07 พฤศจิกายน 2561

ฮ่องกงถือเป็นตลาดสำคัญในการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย แต่ในช่วงปีนี้การส่งออกข้าวไทยในตลาดฮ่องกงมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

โดย...อรวรรณ จันทร์ธิวัตรกุล

ฮ่องกงถือเป็นตลาดสำคัญในการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย แต่ในช่วงปีนี้การส่งออกข้าวไทยในตลาดฮ่องกงมีส่วนแบ่งตลาดลดลง เนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ทำให้ฮ่องกงหันมานำเข้าข้าวหอมจากประเทศคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากเวียดนามที่ราคาข้าวหอมถูกกว่าไทยมาก

ล่าสุด กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฮ่องกง (Trade and Industry Department) ได้รายงานว่าการนำเข้าข้าวของฮ่องกงในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) 2561 โดยฮ่องกงนำเข้าข้าวจากประเทศต่างๆ รวมประมาณ 2.28 แสนตัน ลดลง 1.63% เทียบกับปริมาณ 2.32 แสนตัน ในช่วงเดียวกันของปี 2560 เป็นการนำเข้าจากไทย 1.30 แสนตัน ลดลง 16.28% เทียบกับ 1.55 แสนตัน ในช่วงเดียวกันของปี 2560 ประกอบด้วย ข้าวขาว 4,300 ตัน ข้าวหอม 1.18 แสนตัน และข้าวชนิดอื่นๆ 6,900 ตัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 56.8% ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด หรือลดลง 14.97% เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งตลาดในช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 66.8%

รองลงมานำเข้าจากเวียดนามปริมาณ 5.41 หมื่นตัน เพิ่มขึ้น 38.01% เทียบกับปริมาณ 3.92 หมื่นตัน ในช่วงเดียวกันของปี 2560 ประกอบด้วย ข้าวหอม 4.81 หมื่นตัน ข้าวขาวและข้าวชนิดอื่นๆ รวม 6,000 ตัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 23.6% นำเข้าจากจีนประมาณ 1.57 หมื่นตัน ส่วนแบ่งตลาด 6.9% ที่น่าสนใจคือนำเข้าจากกัมพูชาประมาณ 1.08 หมื่นตัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7% มีปริมาณเพิ่มขึ้น 68.75% และสัดส่วนเพิ่มขึ้น 74.07% นำเข้าจากออสเตรเลีย 8,100 ตัน ส่วนแบ่งตลาด 3.5% สหรัฐ 5,600 ตัน ส่วนแบ่งตลาด 2.5% และประเทศอื่นๆ 4,500 ตัน ส่วนแบ่งตลาด 2.0%

ชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า สาเหตุที่ฮ่องกงนำเข้าข้าวจากไทยลดลงมากในปีนี้ เนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยแพงมาก ซึ่งราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น หรือผู้ซื้อรับได้ในราคาประมาณ 850-900 ดอลลาร์/ตัน แต่ราคาข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,100 ดอลลาร์/ตัน ทำให้ผู้นำเข้าฮ่องกงแม้จะมีความจำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากไทยเพื่อรักษาแบรนด์ แต่ก็ลดปริมาณนำเข้าลงและไปนำข้าวหอมจากประเทศอื่นมาผสม เพื่อลดต้นทุน เพราะขายปลีกได้ยากลำบาก

“ปัจจัยด้านราคาทำให้ทั้งฮ่องกงและสิงคโปร์ นำเข้าข้าวหอมจากไทยลดลง และไปนำเข้าข้าวหอมจากเวียดนามที่ราคาขายอยู่ประมาณ 500-600 ดอลลาร์/ตัน เพราะราคาห่างจากข้าวไทยถึง 400-500 ดอลลาร์/ตัน ทำให้คาดว่า ปี 2561 เวียดนามจะส่งออกข้าวหอมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 2 ล้านตัน รวมทั้งกัมพูชาเช่นกันที่มีการส่งออกข้าวหอม ซึ่งเป็นข้าวชนิดเดียวกันไทยเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้กัมพูชาจะส่งออกข้าวหอมประมาณ 5-6 แสนตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เนื่องจากราคาข้าวหอมกัมพูชาอยู่ที่ 900 ดอลลาร์/ตัน ต่ำกว่าข้าวไทย” ชูเกียรติ กล่าว

ขณะที่ข้าวหอมมะลิของไทยปี 2561 คาดว่าจะส่งออกปริมาณ 1.8 ล้านตัน (รวมต้นข้าวและปลายข้าว) ลดจากปี 2560 ส่งออก 2.2 ล้านตัน เนื่องจากราคาแพงขึ้น แต่หากรัฐบาลมองว่าปริมาณส่งออกข้าวลดลง แต่มูลค่าที่ได้รับจากราคาขายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกรไทย ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวไทยแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งดูแลการเก็บเกี่ยวให้ข้าวไทยยังคงรักษาความหอมเพื่อรักษาชื่อเสียงข้าวหอมมะลิไทยว่าเป็นข้าวคุณภาพดีของโลกไว้ต่อไป