'สมคิด'สั่งลุย CLMV

“สมคิด” สั่งยกระดับรัฐวิสาหกิจบุกตลาดซีแอลเอ็มวี ร่วมทุน-ขยายธุรกิจ เน้นท่าเรือ-สนามบิน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมงานกระทรวงคมนาคมว่า รัฐวิสาหกิจภายใต้หน่วยงานนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความชำนาญด้านแผนพัฒนาโครสร้างพื้นฐานครอบคลุมทุกระบบ ดังนั้นจึงควรออกไปขยายตลาดและรับดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีที่ตอนนี้มีนโยบายเร่งลงทุนงานเมกะโปรเจกต์ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน รถไฟและสนามบินเป็นต้น เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียนในระยะยาว

นายสมคิด กล่าวว่า สำหรับหน่วยงานที่มีศักยภาพทั้งสองแห่งอย่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ให้พัฒนาเป็นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลระดับสากล เช่นเดียวกับ บริษัท ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ไปเปิดตลาดต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากซีแอลเอ็มวีโดดเด่นเรื่องการขนส่งสินค้าทางน้ำไปยังชาติยุโรปและจีน รวมถึงตลาดการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ธุรกิจการบินขยายตัวอย่างมาก วันนี้ต้องเร่งยกระดับกิจการ กทท.ให้มีความแข็งแกร่งและไปรับงานในต่างประเทศ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบจากมาเลเซียและสิงคโปร์

ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ทอท.อยู่ระหว่างจัดโรดโชว์ไปยังประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีโดยเริ่มจากประเทศเมียนมาเพื่อดึงนักลงทุนมาพัฒนาศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออกทางอากาศ (Certify Hub) ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเป็นธุรกิจบริการตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าเกษตรก่อนส่งออกไปยังประเทศปลายทางโดยใช้มาตรฐานยุโรป ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตรับรองการส่งออกจากยุโรปโดยการันตีว่าสินค้าที่ส่งจาก ทอท.มีโอกาสการถูกตีกลับ 0% ถือว่าเป็นชาติแรกๆ ในอาเซียนที่มีบริการนี้

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ทอท.เตรียมเปิดตัวสมาร์ทการ์ดและแอพพลิเคชั่น AOT เพื่อเป็นการพลิกโฉมการหารายได้กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน ผ่านการใช้เทคโนโลยีตามแผนแม่บทดิจิทัล โดยบัตรดังกล่าวจะมาในรูปแบบบัตรสะสมแต้มและบัตรใช้แทนเงินสดในใบเดียว ด้วยการโอนแต้มสะสมบัตรเครดิตทั่วไป เพื่อรับสิทธิประโยชน์รวมถึงจับจ่ายใช้สอยร้านค้าและบริการในสนามบินทั่วประเทศรวมถึงสนามบินซิสเตอร์แอร์พอร์ตทั่วโลกรวม 15 สนามบิน เช่นสนามบินนาริตะและสนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น สนามบินมิวนิก ประเทศเยอรมนีเป็นต้น ดังนั้นในอนาคตผู้โดยสารชาวไทยจะสามารถจองโรงแรมและบริการรถแท็กซี่และรถเช่าภายในสนามบินต่างๆ ทั่วโลกได้ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านผ่านระบบออนไลน์และสมาร์ทโฟน