ถกเอฟทีเอ‘กีวี่’

โพสต์ทูเดย์ - พาณิชย์บินถกเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ 10-11 ก.ย.นี้ เล็งเปิดตลาดการค้าบริการเพิ่ม พร้อมหารือรายละเอียดซีพีทีพีพี

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จะนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างไทย-นิวซีแลนด์ ครั้งที่ 8 (TNZCEP JC) วันที่ 10-11 ก.ย. 2561 ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามความตกลงเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP) ที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2548

ทั้งนี้ ในการประชุม TNZCEP ครั้งนี้ไทยและนิวซีแลนด์จะหารือว่าควรจะมีการสานต่อการเจรจาในประเด็นใดเพิ่มอีกหรือไม่ อาทิ การเปิดตลาดการค้าบริการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่อยู่ในความตกลง TNZCEP เป็นต้น รวมทั้งไทยจะหารือกับนิวซีแลนด์ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ ซีพีทีพีพี เพื่อขอทราบรายละเอียดของความตกลงซีพีทีพีพีโดยเฉพาะประเด็นเทคนิค เช่น การตีความถ้อยคำในความตกลงฯ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการศึกษาผลดีผลเสีย
ของการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงซีพีทีพีพีของไทยต่อไป

“ที่ผ่านมากรมได้ลงพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมซีพีทีพีพี ซึ่งก็มีข้อคิดเห็นหลายด้าน โดยในส่วนของข้อกังวล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงและสร้างความเข้าใจ โดยผลสรุปจากการรับฟังความเห็น กรมจะทำเป็นอินโฟร์กราฟฟิกอธิบาย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งจะหารือกับประเทศที่เป็นสมาชิกซีพีทีพีพี เพื่อขอทราบรายละเอียดในประเด็นต่างๆ ในการเตรียมพร้อมเข้าร่วมกรอบความตกลงดังกล่าวด้วย” นางอรมน กล่าว

สำหรับ เอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2548 โดยความตกลงครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้า และการลงทุน ตลอดจนความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าในสาขาต่างๆ โดยในส่วนสินค้านิวซีแลนด์ได้ลดภาษีกว่า 70% ของรายการสินค้าทั้งหมดให้ไทยเป็น 0% ตั้งแต่ปี 2548 และทยอยลดภาษีสินค้าทุกรายการจนเหลือ 0% แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558

ขณะที่ไทยลดภาษีเป็น 0% ให้นิวซีแลนด์ จำนวน 54% ของรายการสินค้าทั้งหมดตั้งแต่ปี 2548 และจะทยอยลดภาษีทุกรายการเหลือ 0% ในวันที่1 ม.ค. 2568 หรือ 20 ปี นับแต่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ปัจจุบันไทยยังมีการกำหนดโควตาภาษีและมาตรการปกป้องพิเศษกับสินค้าบางรายการจากนิวซีแลนด์ เช่น ไขมันเนย นม ครีม เป็นต้น โดยไทยจะต้องยกเลิกมาตรการดังกล่าวให้หมดไปในปี 2568

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและนิวซีแลนด์อยู่ที่ 2,282 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้นนับจากความตกลงมีผลบังคับใช้กว่า 194.78% โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามาอย่างต่อเนื่อง สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย อาทิ รถยนต์และอุปกรณ์ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ และผลิตภัณฑ์พลาสติก ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ อาทิ นมและผลิตภัณฑ์นม ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้เนื้อสัตว์ เป็นต้น