posttoday

3 เมือง 3 ประเทศลุ่มน้ำโขง ดันลดเวลาตรวจสินค้าผ่านแดน

30 มิถุนายน 2561

โดย...ชูโรจน์ ตรีประภากร

โดย...ชูโรจน์ ตรีประภากร

ปัญหาสำคัญของการขนส่งข้ามแดนตามเส้นทางเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง 3 ชาติ เวียดนาม-ลาว-ไทย คือการตรวจสินค้าเมื่อถึงด่านพรมแดนของแต่ละประเทศ ซึ่งใช้เวลาทั้งกระบวนการร่วม 4 ชั่วโมง อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ 

ภมร เชาว์ศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร และประธานคณะอนุกรรมการเศรษฐกิจไทย-ลาว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ร่วมประชุม 3 เมือง 3 ประเทศ คือ มุกดาหาร สะหวันนะเขต และกวางตรี ที่เมืองกวางตรี ประเทศเวียดนาม โดยสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (Mekong Institute : MI) ที่ประชุมได้เสนอให้เปิดช่องทางตรวจปล่อยสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 จุด ในแต่ละประตูชายแดนเพื่อลดเวลา

“ขั้นตอนด้านเอกสารหรือปฏิบัติงานในด่านตรวจปล่อยนานเกินไป แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที สำหรับการตรวจปล่อยสินค้าจะใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ที่ประตูด่านชายแดนลาวบาว-แดนสะหวันก็เช่นกัน ส่งผลกระทบทำให้สินค้าประเภทพืชผัก ผลไม้เน่าเสีย ทำให้มีค่าใช้จ่ายต้นทุนการขนส่งสูงขึ้นตามไปด้วย และระยะเวลาผ่านแดนที่ยืดยาวอาจจะทำให้กลุ่มลูกค้าหดหาย”

ภมร กล่าวว่า ระยะเวลาในการตรวจปล่อยสินค้าข้ามแดนของด่านทุกแห่งควรจะไม่เกิน 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้า ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำนักงานศุลกากร กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานเกษตรและป่าไม้ด้านพืช ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ด้านชายแดนทุกส่วน ให้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบดำเนินการด้านสินค้าผ่านแดน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวด้านการขนส่งสินค้าบนเส้นทางการค้าชายแดน สาย EWEC ของทั้ง 3 เมือง 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม

“มุกดาหารเสนอให้ส่งเสริมการเชื่อมต่อ การแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการจาก 3 เมืองชายแดน การจัดกิจกรรมส่งเสริมทางด้านธุรกิจ เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการและการจัดงานจำหน่ายแสดงสินค้าระหว่าง 3 เมืองชายแดน ผลัดกันเป็นเจ้าภาพเป็นประจำทุก 2 หรือ 4 เดือนครั้ง”

3 เมือง 3 ประเทศลุ่มน้ำโขง ดันลดเวลาตรวจสินค้าผ่านแดน

ด้านตัวแทนแขวงสะหวันนะเขตได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพด้านการค้าการลงทุน ข้อได้เปรียบ และโอกาสสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ เมืองกวางตรีได้นำเสนอข้อมูลทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ภายในท้องถิ่น และแสดงความสนใจในความร่วมมือด้านการค้ากับผู้ประกอบการจากมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขตในกลุ่มสินค้าการเกษตรและประเภทอาหารทะเล

จำลอง วงค์กิตติธร รองประธานหอการค้ามุกดาหารฝ่ายการค้าชายแดน กล่าวว่า ก่อนนี้หอการค้ามุกดาหาร ตัวแทนผู้ประกอบการชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดจุดผ่อนปรนชายแดนสำรองระหว่าง อ.ไชยภูทอง แขวงสะหวันนะเขต และ อ.ดอนตาล และที่บ้านสองคอน อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นไทย-ลาว สองฝั่งโขงมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน คนในท้องถิ่นมีงานทำทุกคน มีรายได้ มีเม็ดเงินกระจายในชุมชน สร้างเศรษฐกิจให้ตื่นตัวกับชุมชนเป็นอย่างดี ซึ่งยังคงเหลือเขตเมืองที่ควรจะมีการเปิดให้ชาวบ้านร้านถิ่นได้ค้าขายกันด้วย และรัฐบาลควรเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนให้กระจายไปทุกพื้นที่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เมียนมา กัมพูชา จะเป็นผลดีกับชุมชนท้องถิ่นไทยทุกแห่ง

“ขณะนี้ประเทศเวียดนามได้สร้างสนามบินนานาชาติวันด่ง เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองกวางบินห์ มีการตัดถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการท่องเที่ยวที่กำลังไหลหลั่งเข้าสู่เวียดนามในทุกพื้นที่ ซึ่งประเทศไทยในฐานะที่เป็นเมืองท่องเที่ยวจะต้องพัฒนาให้ทัน จากการประชุมร่วมกับนักธุรกิจเมืองชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง โดยสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (Mekong Institute) จะมีโครงการพัฒนาศักยภาพเชื่อมต่อผู้ประกอบการลุ่มน้ำโขง ได้ให้ข้อสรุปด้านการค้าระหว่างเมืองชายแดน 3 เมืองบนแนวเส้นทาง EWEC และมีแผนที่จะจัดงานการประชุมร่วมครั้งต่อไป ที่ จ.มุกดาหาร ในช่วงกลางปี 2561 ที่จะถึงนี้”

3 เมือง 3 ประเทศลุ่มน้ำโขง ดันลดเวลาตรวจสินค้าผ่านแดน