posttoday

พลังงานทดแทน ในสิงคโปร์

15 มีนาคม 2561

หลายคนอาจรู้จักประเทศสิงคโปร์ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้า และระบบเศรษฐกิจของอาเซียน

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

หลายคนอาจรู้จักประเทศสิงคโปร์ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้า และระบบเศรษฐกิจของอาเซียน แต่สิงคโปร์ยังเป็นต้นแบบที่ดีในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทดแทนในหลากหลายรูปแบบ

แม้ว่าประเทศสิงคโปร์จะไม่มีการให้มาตรการสนับสนุนทางการเงินใดๆ สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ภาครัฐให้การสนับสนุนในด้านอื่นๆ เช่น การจัดทำแผนที่ศักยภาพแสงอาทิตย์ โดยใช้แผนที่ GPS เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัด แนวโน้มการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์อาทิตย์ของประเทศสิงคโปร์ จึงเป็นรูปแบบการติดตั้งบนหลังคามากกว่าบนพื้นดิน

ทั้งนี้ ในอนาคตหลังจากที่ราคาไฟฟ้าที่ผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์ของสิงคโปร์สามารถแข่งขันได้กับราคาไฟฟ้าจากระบบสายส่ง การสนับสนุนจากภาครัฐก็ไม่มีความจำเป็นต่อไป

ที่สำคัญ รัฐบาลสิงคโปร์ยังมีนโยบายชัดเจนในการตั้งเป้าเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 1 ใน 5 ของพลังงานที่ชาวสิงคโปร์ใช้ทั้งหมด

จากแนวนโยบายที่รัฐบาลสิงคโปร์เดินหน้าผลักดันการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น จันทิรา ยิมเรวัต อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงเห็นถึงแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนของสิงคโปร์ จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการไทยฉวยจังหวะนี้ ที่สิงคโปร์บูมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ส่งออกอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือเข้าไปลงทุนผลิตไฟฟ้าในสิงคโปร์ เพราะนโยบายของรัฐบาลสิงคโปร์ได้ส่งเสริมการเข้ามาลงทุนของต่างชาติด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2563 สิงคโปร์ได้ตั้งเป้าการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่ระดับ 350 เมกะวัตต์ และในไตรมาส 3 ของปี 2560 ที่ผ่านมา สิงคโปร์สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ทั้งหมด 145 เมกะวัตต์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ชาวสิงคโปร์จะสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ถึง 1 ใน 5 ของพลังงานที่ชาวสิงคโปร์ใช้ทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันสิงคโปร์ใช้พลังงานเดือนละประมาณ 7,000 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกัน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ รัฐบาลสิงคโปร์ได้มอบทุนวิจัยกว่า 6.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อดำเนินการและมอบเงินสนับสนุนกว่า 17.8 ล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาระบบจัดเก็บพลังงานในระดับสำหรับสาธารณูปโภคในสิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม การผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในสิงคโปร์ก็มีอุปสรรค โดยอาจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากสิงคโปร์ซื้อก๊าซธรรมชาติในราคาที่เชื่อมโยงกับราคาน้ำมันโลก

ปัจจุบันกระแส “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” หรือกรีน กำลังเป็นที่นิยมในสิงคโปร์ และในปี 2562 สิงคโปร์จะขึ้นภาษีคาร์บอนมีอัตราอยู่ระหว่าง 10-20 ดอลลาร์/ตัน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขณะนี้การผลิตไฟฟ้าในสิงคโปร์ 95% เป็นการผลิตจากก๊าซธรรมชาติ และผู้ประกอบการด้านพลังงานในสิงคโปร์หันไปผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กันมากขึ้น เช่น บริษัท Sembcorp Industries ได้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้แผง Solar ติดไว้ที่สนามบิน Changi สิงคโปร์ 

นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ST Aerospace บริษัท Senoko Energy และบริษัท Sunseap Group เป็นต้น

ทั้งหมดนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้าไปขายในสิงคโปร์