posttoday

ใช้เอฟทีเอปั้นไทย มหานครผลไม้โลก

13 กุมภาพันธ์ 2561

พาณิชย์เร่งใช้ประโยชน์ เอฟทีเอดันไทยมหานครผลไม้เมืองร้อนโลก แนะเจาะตลาดอาเซียนและจีน

พาณิชย์เร่งใช้ประโยชน์ เอฟทีเอดันไทยมหานครผลไม้เมืองร้อนโลก แนะเจาะตลาดอาเซียนและจีน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมมีแผนที่จะใช้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เป็นเครื่องมือส่งเสริมตามแผนยุทธศาสตร์ ผลไม้ของรัฐบาล ที่ตั้งเป้าให้ไทยเป็นมหานครด้านผลไม้เมืองร้อนของโลก โดยจะเร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการผลไม้ไทยใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เพื่อเพิ่มยอดการส่งออกไปยังคู่เจรจาเอฟทีเอเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด ลำไย และมะม่วง

ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมาไทยเป็นผู้ส่งออกผลไม้และผลไม้แปรรูปอันดับที่ 10 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกกว่า 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นคู่ค้าที่มีเอฟทีเอกับไทย โดยภาครัฐได้เข้าไปช่วยพัฒนาการผลิตบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง และเพิ่มช่องทางค้าขายผ่านออนไลน์

สำหรับตลาดอาเซียนถือเป็นตลาดส่งออกผลไม้อันดับหนึ่งของไทย โดยสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ได้ยกเว้นภาษีศุลกากรของผลไม้และผลไม้แปรรูปตามความตกลงการค้าเสรีอาเซียนแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 ส่งผลให้ในปี 2553 การส่งออกผลไม้ของไทยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 39 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2552 และมูลค่าส่งออกสินค้าผลไม้และผลไม้แปรรูปไปอาเซียนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่จีนเป็นตลาดส่งออกผลไม้และผลไม้แปรรูปอันดับที่ 3 ของไทยรองจากอาเซียนและสหรัฐ ซึ่งภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน (ACFTA) ทางจีนได้ลดภาษีผลไม้และผลไม้แปรรูปนำร่องตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2546 โดยในปี 2560 ไทยมีมูลค่าการส่งออกผลไม้ตลาดจีนประมาณ 740 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 16% ของการส่งออกสินค้าผลไม้และผลไม้แปรรูปทั้งหมดของไทยไปตลาดโลก