ขีดแข่งขันไทยถดถอย
ทีดีอาร์ไอชี้ขีดความสามารถสินค้าเกษตรไทยแข่งขันสู้อาเซียนลด เร่งรัฐปฏิรูปนโยบายการเกษตร
ทีดีอาร์ไอชี้ขีดความสามารถสินค้าเกษตรไทยแข่งขันสู้อาเซียนลด เร่งรัฐปฏิรูปนโยบายการเกษตร
นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยในงานสัมมนาแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตร เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยว่า แนวโน้มความสามารถการแข่งขันสินค้าเกษตรไทยลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศในกลุ่มอาเซียน เนื่องจากผลการวิเคราะห์ดัชนี NRCA ของไทย (Normalized Reveled Comparative Advantage) เทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าสินค้าการเกษตรไทยที่มี NRCA มากกว่าหรือเท่ากับ 0 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีจำนวน 152 รายการ สินค้าที่มี NRCA มากกว่าหรือเท่ากับ 0 และมีแนวโน้มเท่าเดิม มีจำนวน 36 รายการ สินค้าที่มี NRCA มากกว่า หรือเท่ากับ 0 และมีแนวโน้มลดลง มีจำนวน 60 รายการ
ขณะที่สินค้ากลุ่มไม่น่าสนใจ หรือสินค้าเกษตรที่มี NRCA น้อยกว่า 0 มีจำนวน 816 รายการ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอาเซียน พบว่าภาพรวมไทยมีสินค้าเสียเปรียบมากกว่าคู่แข่งเกือบทุกประเทศ ยกเว้นสิงคโปร์
"การวิเคราะห์ความสามารถแข่งขันของสินค้าไทยผ่านดัชนี NRCA หากค่าของดัชนีของสินค้ามีค่ามากกว่าศูนย์ หมายถึงไทยมีความสามารถในการแข่งขัน แต่ถ้ามีค่าติดลบแสดงถึงการไร้ความสามารถในการแข่งขัน" นายนณริฏ กล่าว
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ภาครัฐควรปฏิรูปนโยบายการเกษตรใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะการเพิ่มงบวิจัยด้านการเกษตร เพราะที่ผ่านมาภาครัฐลงทุนการวิจัยด้านการเกษตรเพียง 0.25% ของจีดีพีการเกษตร ส่งผลให้ผลิตภาพโดยรวมลดลง ขณะที่การอุดหนุนราคาสินค้าด้านการเกษตรของรัฐบาลส่งผลกระทบระยะยาวแก่เกษตรกรไทย ทำให้ปรับตัวเพื่อการแข่งขันได้ลดลง
นอกจากนี้ ปัจจัยท้าทายภาคเกษตรภายในที่รัฐบาลต้องแก้ไข ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิตจากค่าแรงขั้นต่ำ การขาดแคลนแรงงาน และบุคลากรในภาคการเกษตร ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในภาคการเกษตร ปัญหาทรัพยากรลดลง และปัญหาการจัดการน้ำ ส่วนปัจจัยท้าทายภายนอกที่ภาครัฐต้องรับมือ ได้แก่ การกีดกันทางการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน นอกจากนี้ประเทศคู่แข่งเน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และลงทุนด้านการวิจัยยิ่งทำให้ไทยต้องเร่งปรับตัว