เร่งบูมศก.ไทย-เวียดนาม
ไทย-เวียดนาม หารือขจัดอุปสรรคทางการค้ามุ่งเพิ่มมูลค่าการค้าให้บรรลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563
ไทย-เวียดนาม หารือขจัดอุปสรรคทางการค้ามุ่งเพิ่มมูลค่าการค้าให้บรรลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายเหงวียน หาย บั่ง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนามในการสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและการค้า และขยายผลความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ตลอดจนนำศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและเวียดนามมาเชื่อมโยงกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของภูมิภาคซีแอลเอ็มวีที ในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและขยายโอกาสการค้าไปสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการขจัดอุปสรรคทางการค้า เพื่อผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 และไทยขอให้เวียดนามทบทวนและชะลอการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับเงื่อนไขการผลิต การค้าและการนำเข้ารถยนต์ตามที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันไทยได้ขอบคุณเวียดนามที่เลื่อนการบังคับใช้กฎระเบียบที่กำหนดให้เครื่องมือแพทย์ต้องขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์หรือได้รับอนุญาตให้นำเข้าออกไปบังคับใช้ปี 2562 ตามที่ไทยเรียกร้อง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการไทยมีเวลาเตรียมตัวก่อนมีผลบังคับใช้จริง
นอกจากนี้ ไทยได้เร่งรัดให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ 3 ซึ่งเวียดนามรับเป็นเจ้าภาพ ในช่วงต้นปี 2561 โดยการประชุม JTC จะเป็นเวทีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายจะได้มีโอกาสพบปะหารือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการค้าและการลงทุน แลกเปลี่ยนข้อมูลและขยายการค้าระหว่างกัน
สำหรับเวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในโลก และอันดับที่ 4 ของไทยในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (2555-2559) การค้าระหว่างไทยกับเวียดนามมีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ขยายตัวเฉลี่ย 8.83% ต่อปี โดยช่วง 11 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-พ.ย.) การค้าระหว่างไทยกับเวียดนามมีมูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 20.04%
บรรยายภาพ - หารือการค้า : สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ (ขวา) หารือกับ เหงวียน หาย บั่ง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย (ซ้าย) เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2563