posttoday

รีดค่าผ่านทางอาเซียน ดีเดย์ปลายปีหน้า เริ่ม42บาท

28 พฤศจิกายน 2560

สนข.เตรียมชงแผนเก็บค่าผ่านทางอาเซียนให้ ครม.เคาะ ตั้งเป้าเริ่มเก็บปลายปี 2561 เริ่ม42บาท นำร่องชายแดน28แห่งทั่วประเทศ

สนข.เตรียมชงแผนเก็บค่าผ่านทางอาเซียนให้ ครม.เคาะ ตั้งเป้าเริ่มเก็บปลายปี 2561 เริ่ม42บาท นำร่องชายแดน28แห่งทั่วประเทศ

นางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า โครงการศึกษาการจัดเก็บค่าผ่านทางรองรับการขนส่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนพบว่า ปริมาณยานพาหนะที่เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง กระทรวงคมนาคมจึงเตรียมแผนเก็บค่าผ่านทางอาเซียน ซึ่งผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.นี้ และจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบต่อไป หากอนุมัติเห็นชอบต้องปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าปลายปี 2561 สามารถดำเนินการจัดเก็บค่าผ่านทางได้เร็วสุด

ทั้งนี้ แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก 1-3 ปี เก็บค่าธรรมเนียมผ่านแดนกับรถยนต์ที่นั่ง 4 ล้อต่างชาติ โดยเฉพาะรถยนต์ทั่วไปและรถท่องเที่ยวที่เข้าและออกตามด่านชายแดน เริ่มจากเก็บค่าธรรมเนียมการอนุญาตผ่านทางในอัตรา 100 บาท สำหรับค่าอนุญาตผ่านทางโดยการใช้บัตรเติมเงิน อายุ 5 ปี ส่วนค่าธรรมเนียมผ่านทางในอัตรา 42 บาท/เที่ยว ไม่มีการปรับอัตราค่าธรรมเนียมในช่วง 10 ปีแรก แต่จะมีการปรับอัตราขึ้นทุก 5 ปีหลังจากนั้น ซึ่งจะนำร่องเก็บค่าผ่านทางชายแดนทั้ง 28 แห่งที่มีการศึกษา เช่น ด่านสะเดา ด่านบ้านริมเมย (แม่สอด) ด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 (เชียงของ) ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 (หนองคาย) และด่านอรัญประเทศ

สำหรับระยะกลาง 4-7 ปี เพิ่มขีดความสามารถเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ทาง โดยติดตั้งระบบจีพีเอสสามารถติดตามยานพาหนะต่างประเทศที่เข้ามาในไทยได้โดยระบุตำแหน่ง เส้นทาง ความเร็วของยานพาหนะได้ ในระยะนี้จะเก็บค่าธรรมเนียมตามระยะทาง โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมการอนุญาตผ่านทางในอัตรา 100 บาท สำหรับค่าอนุญาตผ่านทางโดยการใช้บัตรเติมเงิน อายุ 5 ปี ค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตรา 42 บาท/เที่ยว หลังจากนั้นจะเก็บค่าธรรมเนียมคิดเป็น กม.ละ 1.5 บาท และ 3.ระยะยาว 8-10 ปี พิจารณาขอบเขตการเก็บค่าผ่านทางไปยังรถยนต์ประเภทอื่นและพื้นที่ด่านชายแดนถาวรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือมีแผนการก่อสร้างเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องตามสภาพเศรษฐกิจและนโยบายของภาครัฐด้วย

ภาพประกอบข่าว