พลังบวกไทย-กัมพูชา โอกาสธุรกิจที่เอื้อมถึง

โดย...กองบรรณาธิการโพสต์ทูเดย์

พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ นายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา กล่าวปาฐกถา หัวข้อ นโยบายตลาดเสรี พร้อมรับทุกการลงทุน ว่า ในปัจจุบันไทยและกัมพูชาพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งระดับผู้นำประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบปะ ฮุนเซน ผู้นำประเทศกัมพูชาถึง 3 ครั้ง อีกทั้งความร่วมมือระดับกระทรวง ระหว่าง 2 ประเทศ ทำงานเชื่อมโยงกันมากขึ้น โดยสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยและกัมพูชา เพื่อเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างกัน ทั้งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการทำธุรกิจในกัมพูชาด้วย มองว่าปัจจุบันเป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในประเทศกัมพูชา

 

ซก จินดา โซเพีย เลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนกัมพูชาและรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

 

ซก จินดา โซเพีย เลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนกัมพูชาและรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไทย-กัมพูชา มีความสัมพันธ์อันดีในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเดินทางประชุมหารือ ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและนโยบายระหว่างประเทศบ่อยครั้ง เป็นโอกาสทางธุรกิจของนักลงทุนทั้งสองประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการลงทุน คือ กฎหมายการลงทุน ซึ่งประเทศกัมพูชาเปิดกว้างด้านการลงทุนให้กับนานาประเทศ โดยทุนไทยเข้ามาลงทุนในกัมพูชาบ้างแล้ว ทั้งภาคส่วนการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

เมา โตรา รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กัมพูชา

เมา โตรา รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กัมพูชา กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญของการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ คือปัจจัยด้านการเมือง ปัจจุบันได้พัฒนาความสัมพันธ์ในทิศทางที่ดีขึ้น การเมืองมีเสถียรภาพ ภาครัฐมุ่งสร้างผลประโยชน์ร่วมทางเศรษฐกิจ สำหรับกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา เร่งผลักดันพัฒนากฎหมายการลงทุนในกัมพูชาให้เป็นสากลและเอื้อต่อการลงทุน ขณะที่ปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน จากโครงการลงทุนสร้างโรงงานไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานในประเทศ และกระชับความร่วมมือระหว่างแนวชายแดนไทย-กัมพูชามากขึ้นด้วย

 

 

รส สีละวา รัฐมนตรีช่วยเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา

 

รส สีละวา รัฐมนตรีช่วยเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา เปิดเผยว่า ประเทศกัมพูชามีประชากรรวม 15.79 ล้านคน ในปี 2559 เป็นตลาดการค้าสำคัญของประเทศไทย อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการเกษตร และภาคส่วนบริการ เป็น 3 ภาคส่วนหลักของกัมพูชา ซึ่งภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในประเทศมากขึ้น ผลักดันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ นอกจากนี้กัมพูชายังเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ จึงแนะให้ผู้ประกอบการศึกษากฎหมายการลงทุนในประเทศกัมพูชาก่อนบุกตลาด

จันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

จันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โอกาสของเอสเอ็มอีไทยในตลาดกัมพูชามีอยู่มาก ได้แก่ การทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการสนับสนุนด้านการผลิตชิ้นส่วนย่อยในอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วยานยนต์ ชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ ชิ้นส่วนจักรยาน ส่งออกไปยังตลาดกัมพูชา

 

ขณะที่อุตสาหกรรมการเกษตรและบริการ ล้วนมีศักยภาพในตลาดกัมพูชา ทั้งธุรกิจด้านสุขภาพ โรงพยาบาล ธุรกิจความงาม สปา รวมถึงการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซในกัมพูชา ทำให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจซอฟต์แวร์มีความต้องการเพิ่มขึ้น

ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตเอกอัคราชทูต ณ กรุงพนมเปญ

ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตเอกอัคราชทูต ณ กรุงพนมเปญ เปิดเผยว่า ยังมีโอกาสทางการค้าและการลงทุนในประเทศกัมพูชาหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริการ โลจิสติกส์ และธุรกิจการก่อสร้าง ซึ่งเติบโตตามภาคส่วนการท่องเที่ยว ด้วยรัฐบาลกัมพูชามีเป้าหมายเพิ่มรายได้จากภาคส่วนการท่องเที่ยวมากขึ้น

 

ปัจจุบันรัฐบาลไทยต้องการผลักดันระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน ความท้าทายคือกฎระเบียบการค้าการลงทุนระหว่างกันที่ไม่เอื้ออำนวยในการทำธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ ดังนั้นโอกาสทางธุรกิจในกัมพูชามีอยู่มาก แต่ไทยต้องลดอุปสรรค และกฎระเบียบที่กีดกันการค้า การเคลื่อนย้าสินค้าข้ามแดนระหว่างกันลงด้วย