โอกาสน้ำมะพร้าวไทยในสิงคโปร์

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็ก มีพื้นที่ทำการเกษตรเพียง 3% ของพื้นที่ทั้งหมด จึงทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเป็นหลัก ทั้งการนำเข้าเพื่อการบริโภคและอุตสาหกรรม เหตุนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดเข้าไป

นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยังมี นโยบายสนับสนุนการรักษาสุขภาพของประชาชนจากเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ให้ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนมาเป็นเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ ร้านขายน้ำผลไม้สดในสิงคโปร์จึงมีการเปิดตัวขึ้นอย่างแพร่หลาย ซึ่งรวมถึงการนำเข้าน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มสำเร็จรูปจากประเทศไทยเข้าไปจำหน่าย

"คนสิงคโปร์ชอบไปเที่ยวที่ประเทศไทยเพื่อไปรับประทานอาหาร น้ำมะพร้าวเป็นหนึ่งเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของคนสิงคโปร์และยอมรับในคุณภาพน้ำมะพร้าวของไทย และปัจจุบันเป็นโลกของความรู้ข่าวสาร ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้และรับรู้ถึงคุณประโยชน์ และสรรพคุณของ น้ำมะพร้าว ยิ่งเป็นโอกาสของน้ำมะพร้าวไทย" ฐิตินันทนา กล่าว

ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ ได้สำรวจตลาดน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มที่จำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำจำนวน 4 แห่งด้วยกัน คือ Cold Storage, Giant, Fair Price และ Sheng Siong เบื้องต้นพบว่า มีน้ำมะพร้าวหลากหลายยี่ห้อที่นำเข้ามาจำหน่าย ทั้งหมด 16 แบรนด์ ส่วนใหญ่แล้วเป็นสินค้าจากประเทศไทย เนื่องจากคุณภาพน้ำมะพร้าวของไทยที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคสิงคโปร์อย่างไรก็ดี นอกจากน้ำมะพร้าวจากไทยที่มีการนำเข้าไปจำหน่ายในสิงคโปร์แล้ว ยังมีน้ำมะพร้าวจากฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ที่ส่งออกน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มออกมาวางจำหน่ายด้วย ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญ

ฐิตินันทนา บอกว่า ปัจจุบันคนสิงคโปร์สนใจรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ อีกทั้งนโยบายของภาครัฐก็สนับสนุนสินค้าสุขภาพและออร์แกนิก คาดว่าตลาดเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวสำเร็จรูปจะมีการเติบโตมากขึ้น แม้ว่าไทยจะได้ส่วนแบ่งตลาดเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่สามารถวางใจได้ เนื่องจากตลาดสิงคโปร์เป็นการค้าเสรี มีการแข่งขันสูง ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ และ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าเป็น ผู้ควบคุมตลาดค้าปลีกส่วนใหญ่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำตลาดมีมูลค่าสูง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อแบบอ้อมต่อราคาสินค้าของไทย และอาจส่งผลถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าของ ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ได้