posttoday

ส่องเวียดนาม เศรษฐีรุ่นใหม่พุ่ง

14 ตุลาคม 2560

“เวียดนาม” มีศักยภาพในการพัฒนาบุคลากรในประเทศสูง และมีกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากในทุกปี จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตกว่า 6% อย่างต่อเนื่อง

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

“เวียดนาม” มีศักยภาพในการพัฒนาบุคลากรในประเทศสูง และมีกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากในทุกปี  จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตกว่า 6% อย่างต่อเนื่อง

ลาน แองห์ เหงวียน ผู้บริหารกองบรรณาธิการ ฟอร์บส์ เวียดนาม เปิดเผยในงานสัมมนาที่เวียดนาม จัดโดยกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ กรุงเทพฯ หรือ YEC Bangkok (วายอีซี กรุงเทพฯ) ว่า กลุ่มนักธุรกิจเวียดนามรุ่นใหม่ และนักธุรกิจระดับพันล้าน หรือบิลเลียนแนร์ในประเทศเวียดนาม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี

ยกตัวอย่าง กลุ่มนักธุรกิจระดับบิลเลียนแนร์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้บริหารซีอีโอผู้หญิง คือ ซีอีโอสายการบินของเวียดนาม ที่เรียนรู้ศึกษาการทำธุรกิจจากต่างประเทศ และมองเห็นโอกาสการทำธุรกิจในประเทศ จึงกลับมาทำและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตประสบความสำเร็จ พร้อมพัฒนาให้สายการบินที่เน้นการให้บริการแก่ลูกค้า โดยเธอมีความเชื่อว่า โอกาสสามารถเกิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า

“การที่จะประสบความสำเร็จในเวียดนาม ทุกคนต่างทำงานหนักอย่างมาก และมองเห็นโอกาสของธุรกิจ ทำให้มีกลุ่มคนรวยรุ่นใหม่ในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้น” ลาน กล่าว

ขณะเดียวกันชาวเวียดนามที่ทำงานในต่างประเทศและทำงานด้านไอทีในซิลิคอนวัลเลย์ สหรัฐอเมริกา ได้กลับเข้ามาทำงานในเวียดนามเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมถึงรัฐบาลก็มีนโยบายผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างมาก มีการส่งเสริมจัดทำโคเวิร์กกิ้ง สเปซ ในเมืองโฮจิมินห์ จึงเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างธุรกิจ

นอกจากนี้ เวียดนามที่เปิดนโยบายเศรษฐกิจในประเทศมากว่า 30 ปีแล้ว กำลังเข้าสู่รุ่นสอง หรือรุ่นสามของธุรกิจที่สืบทอดกิจการ ส่งผลให้สินค้ากลุ่มระดับบน (ลักซ์ชัวรี่) มีโอกาสเติบโตสูงตามลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งผู้ผลิตสินค้ากลุ่มลักซ์ชัวรี่ มีโอกาสจะเจาะตลาดนี้ได้เช่นกัน

“ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตสูงมาตลอด หรือขยายตัวกว่า 6% กลุ่มภาคธุรกิจที่มีการขยายตัวดี จะมีทั้งกลุ่มยานยนต์และกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงหลายกลุ่มธุรกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังบูมอย่างมาก” ลาน กล่าว

มิง เฟือง ดัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท มิง เฟือง โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น เวียดนาม บอกว่า การได้ทำด้านโลจิสติกส์ในเวียดนาม ยอมรับว่าช่วงแรกขาดทุนจากการทำธุรกิจมากจนอยากถอดใจ แต่พอธุรกิจเริ่มมีกำไรก็มีกำลังใจในการทำต่อ จนปัจจุบันบริษัทก็ก่อตั้งผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งการทำธุรกิจที่ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น มาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการใช้บริการ การพัฒนาศักยภาพพนักงานให้สูงขึ้น การทำงานเป็นทีม อีกทั้งการทำให้ทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์และพร้อมนำเสนอแนวคิดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ การมีเครือข่ายทางธุรกิจที่ดีนับเป็นประตูสู่ความสำเร็จ เพราะไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจล้วนมีความสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน

มิง ยังได้บอกอีกว่า จีดีพีเวียดนามที่มีการขยายตัวมากกว่า 6% นั้น เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามจะยังเติบโตต่อเนื่องไม่หยุดอยู่แค่นี้ เนื่องจากรัฐบาลประกาศว่า ภายในปี 2573 จะก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว พร้อมกับทำให้รายได้ของประชาชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

เรียกได้ว่าอนาคตของเวียดนามน่าจับตามองอย่างมาก การพัฒนาในประเทศไม่มีวันหยุดนิ่ง ทั้งด้านเศรษฐกิจและการลงทุน รวมถึงการสร้างคนรุ่นใหม่