posttoday

บอยคอตทัวร์จีน เผยโอทีเอกว่า 4,000 บริษัทขายตั๋วต่ำกว่าทุน

09 ตุลาคม 2560

ททท.ผนึกเอกชนท่องเที่ยวออกมาตรการเข้มบริษัททัวร์จีนขายตั๋วแหล่งท่องเที่ยวไทยผ่านออนไลน์ต่ำกว่าทุน เผยขยายพื้นที่ถึง จ.เชียงใหม่

ททท.ผนึกเอกชนท่องเที่ยวออกมาตรการเข้มบริษัททัวร์จีนขายตั๋วแหล่งท่องเที่ยวไทยผ่านออนไลน์ต่ำกว่าทุน เผยขยายพื้นที่ถึง จ.เชียงใหม่

นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ จำนวน 30 ราย เพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาบริษัทออนไลน์ ทราเวล

เอเยนต์ (โอทีเอ) ประเทศจีนขายสินค้าและบริการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตั๋วเข้าชมการแสดงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่ ต่ำกว่าต้นทุน ส่งผลให้โครงสร้างราคาสินค้าและบริการได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้นำโมเดลการแก้ไขปัญหาของชมรมท่องเที่ยวออนไลน์ประเทศไทย (Online Tourism Club Thailand : OTC) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยวรายใหญ่ในกรุงเทพฯ และพัทยา ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน โดยพบว่าภายหลังการขับเคลื่อนงานของชมรมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถกวดขันและใช้มาตรการหยุดส่งสินค้า หรือเลิกออกตั๋วชั่วคราว (บอยคอต) บริษัทโอทีเอจีนที่ขายต่ำกว่าต้นทุนกว่า 4,000 บริษัท

นอกจากนี้ หลังใช้มาตรการบอยคอตตามช่วงเวลา เช่น ระยะตักเตือน สมาชิกชมรมยกเลิกจำหน่ายตั๋วให้บริษัททัวร์ที่ขายผ่านระบบออนไลน์ หรือโอทีเอ ประมาณ 7 วัน เป็นต้น ซึ่งมีผลตอบรับที่ดี บริษัททัวร์ส่วนใหญ่ไม่กล้ากระทำผิดอีก วัดได้จากยอดจำนวนบริษัทที่ยังขายต่ำกว่าทุนเหลือเพียง 5-6% จากเดิมมีกว่า 4,000 บริษัท 

“การรวมตัวกันของสถานที่รายใหญ่หลายแห่ง ตั้งเป็นชมรมขึ้นมา ได้สร้างอำนาจการต่อรองทางการตลาด และถือเป็นกำแพงป้องกันตัวให้กับผู้ประกอบการ ไม่ถูกบริษัทโอทีเอจีนขายตั๋วในราคาถูกให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) ที่ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่เฝ้าระวังอาจทำโครงสร้างราคาเสียหายในระยะยาวได้” นายสันติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวทางมาตรการดังกล่าวช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย สร้างผลกำไรจากการจำหน่ายตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิม แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจปรับตัวลดลงในช่วงแรก โดยมองว่ากลุ่มที่เข้ามาใช้จ่ายเป็นนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง

นายสันติ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ เตรียมนำโมเดลการก่อตั้งชมรมท่องเที่ยวออนไลน์ รวบรวมผู้ประกอบการในจังหวัดและประสานความร่วมมือในการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว

ด้าน นางเนตรนภา สุทธิธรรมดำรง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ผู้บริหารโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีพร้อมเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือ พร้อมร่วมวางมาตรการกับชมรมท่องเที่ยวฯ โดยเชื่อมั่นว่าแนวทางนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ได้

สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ในปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10-12% คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 11-12 ล้านคน แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 3 ล้านคน เทียบกับปีที่ผ่านมาต่างชาติ 2.8 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 9 แสนคน