ไทยบุกหนักเมียนมา

สภาธุรกิจไทย-เมียนมาเผยผู้ประกอบการไทยแห่ลงทุนเมียนมา กลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 พร้อมชี้ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ

นายปณิธาณ ปวโรฬารวิทยา ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยทั้งรายใหญ่และ รายย่อยให้ความสนใจเข้าไปลงทุนในเมียนมามากขึ้น ล่าสุดมีทั้งสิ้น 112 ราย มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 3.74 แสนล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนจากไทยเป็น ผู้ลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 3 ของเมียนมาทั้งในแง่ของการได้รับใบอนุญาตและมีการลงทุนจริง จากก่อนหน้านี้ที่การลงทุนจริงของไทยตกไปอยู่อันดับที่ 6 โดยรองจากจีนและสิงคโปร์

สำหรับการลงทุนของต่างชาติใน เมียนมาที่มีจำนวนผู้ลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อุตสาหกรรมโรงแรมและท่องเที่ยว และกิจการเหมืองแร่ กิจการขนส่งและโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมปศุสัตว์และประมง

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลเมียนมาเพิ่งมีกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ออกมา โดยกฎหมายลูกยังออกมาไม่ครบ ส่งผลให้สำนักงานส่งเสริมการลงทุนของเมียนมา ระมัดระวังในการพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจในเมียนมาจึงทำให้ การออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจใน เมียนมาล่าช้า

อย่างไรก็ดี รัฐบาลของนางอองซานซูจี ได้ประกาศที่จะหันมาเน้นหนักในเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้น จากก่อนหน้าที่เน้นแก้ไขปัญหาเรื่องชาติพันธุ์มากกว่า โดยคาดว่าจะช่วยทำให้การลงทุนในเมียนมากลับมามีความคึกคักมากขึ้น

"ธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพการลงทุนในเมียนมาผู้ประกอบการไทยคงต้องดูว่ามีธุรกิจใดบ้างที่รัฐบาลเขาให้การส่งเสริม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคพื้นฐาน สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร และการค้าต่างๆ ซึ่งเมียนมายังตามหลังเราอยู่ 15-20 ปี สินค้าอะไรที่เคยประสบความสำเร็จในช่วง 15-20 ปี ก่อนก็มีโอกาสโตได้ในเมียนมา" นายปณิธาณ กล่าว

ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเมียนมาในช่วง 8 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 2560) อยู่ที่ 1.49 แสนล้านบาท  ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 3.3% โดยไทยส่งออก 9.91 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% นำเข้า 5.08 หมื่นล้านบาท ลดลง 10.1% เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นสินค้านำเข้าอันดับหนึ่งจากเมียนมาราคามีการปรับลดลงตามราคาตลาดโลก