ชี้โอกาสลงทุนกัมพูชา

ทูตไทยชี้ช่องลงทุน กัมพูชา เผยภาคโลจิสติกส์และภาคบริการมาแรง

นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประมาณ 7% ทั้งนี้นักลงทุนชาวไทยได้เข้าไปลงทุนด้านธุรกิจการก่อสร้าง ฐานการผลิต และผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนจากหลายประเทศที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ได้แก่ กลุ่มนักลงทุนจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ยังมีโอกาสสำหรับการลงทุนใหม่ๆ โดยภาคส่วนที่น่าสนใจคือ ภาคส่วนโลจิสติกส์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตตามการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศจีนตามแนวนโยบายหนึ่งเส้นหนึ่งแถบ (One Belt One Road)

ขณะที่ภาคธุรกิจบริการก็ยังเติบโตได้ดีในตลาดกัมพูชาตามการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศ คาดว่าภายในปี 2563 นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาในกัมพูชา 1 ล้านคน/ปี

ทั้งนี้ กัมพูชามีศักยภาพด้านเกษตร กรรม ทั้งความอุดมสมบรูณ์ของพื้นที่ปลูก คุณภาพสินค้าเกษตร และเทคโนโลยีการเกษตร ซึ่งรับการถ่ายทอดจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งสิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากร (จีเอสพี) โดยไทยไม่ควรมองกัมพูชา เป็นคู่แข่ง เพราะกัมพูชามีต้นทุนการผลิตต่ำกว่ามาก แต่ควรเน้นพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการสร้าง มูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าการเกษตร เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์

นายณัฏฐวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบัน แม้ไม่ใช่ช่วงยุคทองของการลงทุนในกัมพูชา เนื่องจากมีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเข้ามาทำตลาดในประเทศระยะหนึ่งแล้ว โดยตลาดกัมพูชายังมีศักยภาพสูง ซึ่งไม่ใช่แค่โอกาสของกลุ่มทุนรายใหญ่ แต่ยังเป็นโอกาสให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยด้วย

อย่างไรก็ดี กัมพูชายังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอีกมาก เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความเป็นเมือง จึงทำให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างและธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโต โดยอุตสาหกรรมการก่อสร้างเติบโต เฉลี่ยปีละ 33% ด้านธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านส่วนใหญ่เป็นธุรกิจของผู้ประกอบการ รายย่อย