ลุยเจาะเมืองรองพาณิชย์จัดหนักบริษัทเอกชนเปิดตลาดรัฐฉาน

พาณิชย์ลุยเจาะเมืองรองตลาดซีแอลเอ็มวี จัดทีมภาครัฐและเอกชนบุกรัฐฉาน หวังเปิดตลาดการค้าและการลงทุนวันที่ 7-11 ส.ค.นี้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์เร่งขยายตลาดการค้าและการลงทุนในเมืองรองของกลุ่มประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) ล่าสุดทางกรมการค้าต่างประเทศได้เตรียมจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนไปเจรจาการค้าและการลงทุนกับรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 7-11 ส.ค. นี้

ทั้งนี้ ยังได้กำหนดให้มีการหารือกับมุขมนตรีแห่งรัฐฉาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งรัฐฉาน ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมตองยี และผู้ว่าราชการเมืองเชียงตุง โดยภาครัฐและภาคเอกชนที่จะร่วมคณะในการเดินทางไปครั้งนี้ ประกอบด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ธนาคารกสิกรไทย หอการค้าจังหวัดเชียงราย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน และหอการค้าจังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน

"การจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาการค้าในครั้งนี้ จะสามารถหาลู่ทางในการขยายการค้าและการลงทุนร่วมกับรัฐฉาน ตองยี และเชียงตุง ซึ่งเป็นเมืองรองของเมียนมาได้แน่ ด้วยรัฐมนตรีของรัฐฉานทั้งสองท่าน ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย และมีความพร้อมยินดีที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าไปทำการค้า และการลงทุนในรัฐฉาน" นางอภิรดี กล่าว

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในการนำคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปรัฐฉานครั้งนี้ ถือว่าเป็นการหาโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนให้กับไทย โดยในส่วนของธนาคารกสิกรไทยนั้น มีความสนใจที่จะไปหาลู่ทางการขยายการเปิดสาขาธนาคารเพิ่ม หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดสาขาในกรุงย่างกุ้งไปแล้ว และมีความสนใจที่จะเปิดสาขาธนาคารกสิกรไทยในรัฐฉานเพิ่ม เพราะมองว่าการค้าและการลงทุนของไทยกับรัฐฉานน่าจะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต

ขณะที่ด้าน กฟภ.มีความสนใจไปดูงานเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าในรัฐฉาน และสนใจที่จะเข้าไปลงทุนทำโรงไฟฟ้าเพื่อขายไฟในรัฐฉาน เพราะปกติ กฟภ.ก็ขายไฟฟ้าให้กับท่าขี้เหล็กของ เมียนมาอยู่แล้ว จึงมองว่ารัฐฉานน่าจะมีโอกาสในการลงทุนสูง ส่วนกลุ่มอมตะ ซึ่งเป็นผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม ทางรัฐฉานได้เรียกร้องมาว่าอยากให้เข้าไปลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมในรัฐฉาน เพราะถือเป็นผู้เชี่ยวชาญ และอยากได้ประสบการณ์ของไทยไปพัฒนา และภาคเอกชน มีกลุ่มผู้เลี้ยงไก่และไก่ไข่เดินทางไปด้วย โดยสนใจที่จะเข้าไปลงทุนเลี้ยงไก่และไก่ไข่ในรัฐฉาน เพราะมองว่ามีโอกาสสูง

นอกจากนี้ ในการเดินทางไปครั้งนี้ กรมมีแผนที่จะหารือกับรัฐฉานในการจัดงานไทยแลนด์ เฟสติวัล (Thailand Festival 2018) ที่เมืองตองยีและเชียงตุง เพื่อโปรโมทสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะปัจจุบันนี้สินค้าไทยได้รับการยอมรับในรัฐฉานเป็นอย่างมาก ซึ่งไทยจะใช้โอกาสนี้ในการขยายโอกาสให้สินค้าไทยเพิ่มขึ้น และยังจะเชิญให้ภาคเอกชนของรัฐฉาน ตองยี และเชียงตุง มาเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่กรมมีแผนจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-28 ส.ค. 2560 ด้วย