'คิงเพาเวอร์' ปรับโฉม 'เฮาส์แบรนด์' ดูดพลังจับจ่ายทัวริสต์

โดย...พีรดา ปราศรีวงค์

คิง เพาเวอร์ ร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมปลอดภาษี และผลิตภัณฑ์สินค้าแบรนด์ไทย ถือเป็นประตูหน้าด่านค้าปลีกการนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งอินเตอร์แบรนด์ และโลคัลแบรนด์

วิทยา สินทราพรรณทร รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างกลุ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์ คิง เพาเวอร์ ให้มีความชัดเจนในแต่ละหมวดสินค้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์และตอกย้ำแบรนด์ให้ชาวต่างชาติรับรู้ในวงกว้าง หลังมีผลตอบรับจากนักท่องเที่ยวนิยมซื้อสินค้าแบรนด์คิง เพาเวอร์ เป็นของฝากกลับประเทศตัวเอง

ทั้งนี้ ได้แบ่งประเภทสินค้าไว้ 6 กลุ่ม ได้แก่ คิง เพาเวอร์ เจอร์นี่ เป็นสินค้าประเภทอุปกรณ์การเดินทาง 2.กลุ่มเรซิพี ผลไม้อบแห้ง เช่น ทุเรียน มะพร้าว สับปะรด มะม่วง ฯลฯ อาหารปรุงสำเร็จ 3.กลุ่มโมเมนต์ สินค้า ประเภทสปา ของที่ระลึก 4.คิง พาว โรล สินค้าทองม้วน 5.กลุ่มแบรนด์ วีเอส สินค้าประเทศแฟชั่น และ 6.เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล แฟนคลับ

"บริษัทได้ทยอยปรับเปลี่ยนแบรนด์สินค้า และแพ็กเกจจิ้ง โดยเฉพาะทองม้วนที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 20 ปี ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นคิง พาว โรล เมื่อกลางปี 2559 ช่วยสร้างความชัดเจนให้กับแบรนด์สินค้ามากขึ้น" วิทยา กล่าว

การทำตลาดทองม้วนที่ผ่านมา บริษัทเน้นรูปแบบความเป็นไทยนำเสนอศิลปะวัฒนธรรมไทย ผ่านบรรจุห่อ แต่การปรับโฉมใหม่ครั้งนี้มุ่งความทันสมัยให้กับบรรจุภัณฑ์ เน้นความเป็นสากล และเพิ่มรสชาติที่หลากหลายกว่า 18 รสชาติ ที่มีความแปลกใหม่คงความเป็นสากล และความเป็นไทยผ่านรสชาติทองม้วน เช่น ฟักทอง ต้มยำกุ้ง มัสมั่น แกงเผ็ด ฯลฯ

ขณะที่ นักท่องเที่ยวจีน และตลาดอาเซียน ยุโรป ไต้หวันมีความชื่นชอบทองม้วนของคิง เพาเวอร์ โดยบริษัทเตรียมการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงหนังสือแจ้งข้อมูลสื่อสารรายเดือนกับสมาชิก ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 7 แสนคน เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทยกว่า 80% และต่างชาติ 20%

ด้านอาหารแช่แข็งในกลุ่มเรซิพี บริษัทเน้นคัดสรรวัตถุดิบที่ดี พร้อมคัดเลือกรายการอาหารที่รู้จักเป็นที่นิยมทั่วโลก เช่น ต้มยำกุ้ง มัสมั่น โดยนำเชฟชุมพล แจ้งไพร เป็นผู้ปรุงอาหาร โดยอาหารแช่แข็งเป็นที่นิยมเหมาะสำหรับเป็นของฝากและคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวหรือศึกษาต่างประเทศ สามารถอุ่นทานและมีรสชาติเหมือนอาหารปรุงใหม่

วิทยา บอกว่า ขณะนี้มีแผนเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้ากลุ่มเฮาส์แบรนด์ เพื่อขยายฐานลูกค้าคนไทยมากขึ้น ผ่านช่องทางการเปิดเป็นร้านสแตนด์อะโลน หรือเอาต์เล็ต รวมถึงขยายช่องทางการจำหน่ายเข้าคอมมู นิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้า เพราะสินค้า บางกลุ่มของ คิง เพาเวอร์ ลูกค้า สามารถซื้อสินค้าโดยไม่ต้องมีตั๋ว โดยสารการบินเส้นทางระหว่างประเทศแต่อย่างใดซึ่งในส่วนนี้จะเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ถึงสินค้าป้ายฟ้าที่ซื้อและหิ้วกลับบ้านได้

ทั้งนี้ สินค้าเฮาส์แบรนด์ของบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 15-20% จำนวน 1,900 ล้านบาท ของรายได้ทั้งกลุ่ม การโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องพร้อมจัดหมวดหมู่สินค้าที่ชัดเจนในครั้งนี้

คาดว่าบริษัทจะเติบโตปีละ 25% ในปีนี้ตั้งเป้าที่ 2,500 ล้านบาท วิทยา กล่าวทิ้งท้าย