posttoday

ธุรกิจเวียดนาม พุ่งโฆษณาโซเชียลมีเดีย

06 พฤษภาคม 2560

ปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์กเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างแข่งขันการตลาดออนไลน์และช่องทางการโฆษณา โดยสื่อออนไลน์มีส่วนแบ่งทางโฆษณาและการตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง 

ปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์กเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างแข่งขันการตลาดออนไลน์และช่องทางการโฆษณา โดยสื่อออนไลน์มีส่วนแบ่งทางโฆษณาและการตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างรายได้มหาศาลทั้งในประเทศเวียดนามและทั่วโลก

รายงานข่าวจากเวียดนามนิวส์ ระบุอุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียในเวียดนามเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จากรายงานของอี-บิซิเนส ประเทศเวียดนาม โดยสมาคม อี-คอมเมิร์ซเวียดนาม (VE COM) เปิดเผยว่า ในปี 2559 ธุรกิจในประเทศมีการโฆษณาบนโซเชียลมีเดียสัดส่วน 34% สูงขึ้นจากปี 2558 อยู่ที่ 6% โดยในความเป็นจริงสังคมออนไลน์มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ คือ การค้นหาข้อมูล ซึ่งเป็นช่องทางในการปรับใช้กับการโฆษณาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการกว่า 47% ใช้วิธีการประกาศโฆษณาบนสื่อออนไลน์และอีก 41% ใช้วิธีการโฆษณาแบบค้นหาคำ

สำหรับความนิยมโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์มาจากปัจจัยความประหยัดและเห็นผล ทำให้การตลาดสื่อสังคมออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งจากบริษัทขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยบุคคลที่นิยมใช้การโฆษณาผ่านช่องทางนี้ทั้งสิ้น

เจิ่น จ่อง เตวี๋ยน เลขาธิการสมาคมอี-คอมเมิร์ซเวียดนาม กล่าวว่า ผู้ค้าปลีกรายย่อย (บุคคล) ราว 70% ของเวียดนามมีการโฆษณาสินค้าผ่านช่องเพจเฟซบุ๊กแทนที่เครื่องมือ Google Adwords ซึ่งคาดว่ากลุ่มนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2559 โดยการโฆษณาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันมีภาพลักษณ์ที่เชื่อถือได้ และเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ โดยธุรกิจที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการโฆษณา 46% ของธุรกิจประสบความสำเร็จในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้า ขณะที่การค้นหาข้อมูล (เสิร์ชเอนจิ้น) คิดเป็น 44% ในเวียดนาม

ปัจจุบันธุรกิจในเวียดนามราว 38% ใช้เว็บไซต์ของตนเองเป็นช่องทางการขายหลัก ขณะที่ 34% ใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในปี 2560 นักธุรกิจเวียดนามจะใช้จ่ายการโฆษณาประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสัดส่วน 16% ของมูลค่าการใช้จ่ายโฆษณานี้จะไหลสู่ช่องทางการตลาดออนไลน์

ดั่ง เตี่ยน เฟือง หัวหน้าฝ่ายการตลาด ฟอร์ด เวียดนาม กล่าวว่า จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 47 ล้านคน และจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนอีกมากกว่า 29 ล้านคนในประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีการเชื่อมต่อทางด้านออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาค ดังนั้นการตลาดออนไลน์ผ่านลักษณะโซเชียลเน็ตเวิร์กจึงเป็นเทรนด์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฟซบุ๊กและกูเกิลครองส่วนแบ่งการตลาดออนไลน์ในเวียดนามเป็นหลัก

เล กวาง ตื่อ ซอ รองหัวหน้ากระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร (เอ็มไอซี) เปิดเผยว่า ธนาคารชาติของเวียดนามได้ทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางธุรกิจ รวมถึงดูแลการละเมิดกฎหมายในการดำเนินธุรกิจการเสียภาษีและการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่ตลาดการโฆษณาในประเทศ โซเชียลเน็ตเวิร์กและการค้นหาข้อมูลใช้ผ่านช่องทางอีเมล 36% ผ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ 34% ผ่านหนังสือพิมพ์ 20% ผ่านโทรทัศน์ประมาณ 10-13%

จากบริบทในเวียดนามและสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ และพฤติกรรมของผู้บริโภค การตลาดออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับที่รัฐบาลต้องปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยและรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย