posttoday

ราชากาแฟเวียดนาม

23 พฤศจิกายน 2558

กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนาม และหนึ่งในคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาวงการกาแฟของเวียดนามคือ “ดั่ง เล เงวียน หวู”

โดย...สมหทัย โมสิกะ

กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนาม และหนึ่งในคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาวงการกาแฟของเวียดนามคือ “ดั่ง เล เงวียน หวู” ประธานกรรมการและซีอีโอของ “จุง เงวียน” ธุรกิจกาแฟยักษ์ใหญ่ของประเทศ ผู้ผลิตกาแฟแบรนด์ดังอย่าง “G7” ชื่อที่ได้แรงบันดาลใจจากกลุ่ม 7 ประเทศร่ำรวยของโลก “Passiona” กาแฟกาเฟอีนต่ำ และ “Weasel” กาแฟขี้ชะมดยอดนิยมราคาแพงระยับ

ด้วยความรักหลงใหลในกาแฟ และอยากไขว่คว้าหาโอกาสทางธุรกิจ หวูและเพื่อนๆ ได้เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ “จุง เงวียน” เมื่อปี 2539 ตั้งแต่สมัยเรียนแพทย์ในเมืองบวนมาถ๊วด จังหวัดดั๊กลัก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตกาแฟของเวียดนาม

จากร้านกาแฟเล็กๆ ในวันนั้น ปัจจุบัน จุง เงวียน คือบริษัทผลิตกาแฟอันดับ 1 ของเวียดนาม ส่งออกกาแฟสำเร็จรูปแบรนด์ต่างๆ ไปจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป อาเซียน ญี่ปุ่น ฯลฯ และยังมีร้านขายกาแฟมากกว่า 1,000 แห่งในเวียดนาม อีกทั้งยังขายแฟรนไชส์ในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไทย สิงคโปร์ กัมพูชา และจีน

ความสำเร็จของหวู หรือผู้มีสมญานามว่า “ราชากาแฟ” เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ความทุ่มเทวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ในทุกขั้นตอนการผลิตกาแฟ ให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพสินค้า และลิขสิทธิ์สินค้า ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรของบริษัท

หวู เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจว่า “ตอนผมเริ่มทำธุรกิจ เวียดนามเป็นเพียงผู้ส่งออกเมล็ดกาแฟเท่านั้น ส่วนประเทศยุโรปกลับทำเงินจากการสร้างแบรนด์สินค้าที่พวกเขาผลิตเองไม่ได้ และนี่ทำให้ผมตัดสินใจผลิตกาแฟเวียดนามแบรนด์แรก”

ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้บริษัทของหวูสร้างซัพพลายเชนสินค้ากาแฟตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยอาศัยกลยุทธ์การตลาดและการสร้างแบรนด์แบบสร้างสรรค์ ตลอดจนควบคุมมาตรการการผลิตในทุกขั้นตอน

บริษัท จุง เงวียน ได้นำเข้าระบบชลประทานไฮเทคและปุ๋ยคุณภาพดีมาให้ชาวไร่กาแฟใช้ เพื่อช่วยให้ลดการใช้ยาฆ่าแมลง อีกทั้งยังสอนให้ชาวไร่ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กราคากาแฟในตลาดโลกได้ตลอดเวลา ช่วยให้เจรจาขายกาแฟในราคาที่เหมาะสมได้

หวู ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผ่านการรับรองในระดับสากล เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้สามารถขายกาแฟในตลาดหลักๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป ได้ง่ายขึ้น และยังขายได้ราคาดี เพราะผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานสูง

หวู กล่าวถึงเคล็ดลับความสำเร็จของเขาว่า “สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมีพันธมิตรที่เชื่อถือได้และทีมที่ดี ต้องมีคนที่ร่วมแชร์วิสัยทัศน์ของเราและเดินหน้าไปตามแนวทางเดียวกัน”

สำหรับอนาคตในตลาดอาเซียน ราชากาแฟคนนี้บอกว่า เขามองอาเซียนเป็นตลาดท้องถิ่นมากกว่าเป็นตลาดต่างประเทศ และจะเน้นด้านระบบการจัดจำหน่ายมากขึ้น เช่น การทำข้อตกลงแฟรนไชส์กับผู้ค้าปลีกในประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะในส่วนของกาแฟสำเร็จรูป