สะพานสาละวินเสร็จสมบูรณ์ ขยายการค้าแม่ฮ่องสอน-เนย์ปิดอว์

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

เมียนมานั้นต้องการที่จะเร่งพัฒนาประเทศ หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2553 รัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดี เต็งเส่ง ก็ดำเนินนโยบายผ่อนปรนทางการเมือง ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น และเจรจาสันติภาพกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้ความขัดแย้งที่มีมากว่าครึ่งศตวรรษบรรเทาลงและเริ่มต้นการพัฒนา

แม่น้ำสาละวินใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ถือเป็นแม่น้ำที่ไม่มีสะพานข้ามมาก่อน จึงเป็นอุปสรรคสำคัญของการเดินทาง แต่เมื่อต้นปี 2556 รัฐบาลเมียนมาก็เริ่มโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสาละวิน บริเวณอำเภอผาซอง จังหวัดบอละแคะ รัฐกะยา ห่างจากด่านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จเกือบ 100% เตรียมจะเปิดใช้ในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ สะพานข้ามแม่น้ำสาละวินดังกล่าว ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะพัฒนาเส้นทางการค้าจาก จ.แม่ฮ่องสอน เชื่อมต่อไปยังเมืองสำคัญในประเทศเมียนมา อาทิ เนย์ปิดอว์ ตองยี และมัณฑะเลย์ ซึ่งตั้งแต่เดือน ก.พ. 2558 เป็นต้นมา ทางการเมียนมาได้เชิญตัวแทนภาครัฐ ทหาร และภาคธุรกิจจาก จ.แม่ฮ่องสอน เยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานเป็นระยะๆ ด้วยความหวังว่า จะเป็นการเปิดเส้นทางการค้าใหม่ระหว่างรัฐกะยาและแม่ฮ่องสอน

ขณะที่ฝ่ายไทยก็เร่งเดินหน้าที่จะผลักดันให้จุดผ่อนปรนบ้านห้วยต้นนุ่นต.แม่เงา อ.ขุนยวม ยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งจะทำให้รถขนส่งสินค้าทั้งจากเมียนมาและไทยเดินทางผ่านเข้าออกได้สะดวกขึ้น

ล่าสุด สุรพล พนัสอำพล ผวจ.แม่ฮ่องสอน ก็ยืนยันว่า จะต้องทำหนังสือถึงกรมป่าไม้เพื่อขอใช้พื้นที่ก่อสร้างที่ทำการจุดผ่านแดนถาวรห้วยต้นนุ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันบ้านห้วยต้นนุ่นให้
เป็นจุดผ่านแดนถาวรเป็นประตูการค้ากับเมียนมาให้ได้

ทั้งนี้ สะพานข้ามแม่น้ำสาละวินดังกล่าว มีความยาว 1,152 เมตร งบประมาณก่อสร้างคิดเป็นเงินไทยกว่า 200 ล้านบาท

โดยเส้นทางจากด่านห้วยต้นนุ่นไปยังกรุงเนย์ปิดอว์ มีระยะทาง 260 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางห้วยต้นนุ่น กับ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ไปยังอำเภอแม่แจ๊ะ-ผาซอง จังหวัดบอละแคะ (เมียนมา) เชื่อมเส้นทางต่อไปถึงจังหวัดลอยก่อ-เมืองตองอูและกรุงเนย์ปิดอว์ เพื่อเป็นเส้นทางการค้า การคมนาคม การท่องเที่ยว