มะริดตอบรับโอท็อปไทย เล็งนำเข้าเพิ่ม3รายการ

โดย...ไชยวัฒน์ สาดแย้ม

หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่สวนสนประดิพัทธ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยกระดับด่านสิงขร อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าพิเศษ วีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และชมรมการท่องเที่ยวปราณบุรี-สามร้อยยอด นำสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาว ของประจวบคีรีขันธ์ไปจัดแสดงและจำหน่ายที่เมืองมะริด ประเทศพม่า ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว

“มติจาก ครม.สัญจร ยกระดับด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าพิเศษ ถือเป็นก้าวสำคัญก่อนที่จะยกระดับเป็นด่านถาวรในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจที่กรุงเนย์ปิดอว์ โดยมีประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์และนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยเป็นประธานร่วมในพิธีลงนามมาแล้ว ในครั้งนี้ทางจังหวัดได้มาเปิดตลาดการค้าที่จังหวัดมะริด นำผลไม้แปรรูป อาทิ สับปะรด กล้วย ขนุน มะพร้าว ฯลฯ สินค้าเครื่องจักสานพลาสติก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ไม้กวาดทางมะพร้าว เสื้อผ้าแปรรูปจากกลุ่มทอผ้าบ้านเขาเต่า ตลอดจนผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารทะเลแห้ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สินค้าโอท็อปที่นำมาได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจังหวัดมะริดเป็นอย่างยิ่ง”

ขณะที่ ปรีชา กิตติสัตยกุล พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สินค้าโอท็อปที่นำมาเปิดตลาดครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด จำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็ว สินค้าทั้งหมดจำนวน 5,473 ชิ้นน้ำหนักรวม 1,270 กิโลกรัม มูลค่ารวมยอดขายกว่า 1 ล้านบาท โดยชาวพม่าให้ความสนใจผลไม้แปรรูปมากเป็นอันดับ 1 น้ำว่านหางจระเข้ เครื่องสำอางที่ผลิตจากมะพร้าว อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้ามี 3 ผลิตภัณฑ์ที่จังหวัดมะริดให้ความสนใจที่จะซื้อ ทั้งขนมปังไส้สับปะรด น้ำว่านหางจระเข้ และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำจากมะพร้าว

ด้าน อูเมียะ โกะ มุขมนตรีแห่งภาคตะนาวศรี กล่าวว่า ครั้งนี้นับเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการค้าก้าวแรกระหว่างสองประเทศ ทั้งจังหวัดมะริดและ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน หรือ
โอท็อป ที่ทาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำมาจัดแสดงและจำหน่ายร่วมกับทางหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด ซึ่งในโอกาสต่อไปทางจังหวัดมะริดก็จะได้นำสินค้าไปจัดแสดงที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้ากัน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีของไทยได้เห็นความสำคัญของการพัฒนาการค้าชายแดนระหว่างพม่าและประเทศไทย จนล่าสุดได้มีมติเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าพิเศษด่านสิงขร

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเป็นด่านถาวรนั้นยังต้องรอความพร้อมในการพัฒนาจากฝั่งพม่าเป็นประเด็นสำคัญ