posttoday

หนุน5ยุทธศาสตร์พัฒนาค้าชายแดน

23 เมษายน 2557

หอการค้าหนุนพัฒนาการค้าชายแดนทดแทนภาพรวมการค้าที่ชะลอตัว หลัง 2 เดือนแรกปีนี้ การค้าชายแดนโต 7.23%

หอการค้าหนุนพัฒนาการค้าชายแดนทดแทนภาพรวมการค้าที่ชะลอตัว หลัง 2 เดือนแรกปีนี้ การค้าชายแดนโต 7.23%

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยจะเร่งสนับสนุนการค้าชายแดนให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการวางยุทธศาสตร์สนับสนุนการค้าชายแดนอย่างจริงจังเพื่อทดแทนภาพรวมการค้าที่ชะลอตัว ผ่านยุทธศาสตร์สนับสนุนการค้าชายแดนทั้ง 5 ด้าน หลังพบว่าการค้าชายแดนในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.2557) การค้าชายแดนมีมูลค่ารวม 9.92 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7.23%

ทั้งนี้ การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า การค้าชายแดนกับประเทศพม่ามีการขยายตัวสูงถึง 24% จาก 1.2 หมื่นล้านบาทเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือ กัมพูชาขยายตัว 14% จาก 1.24 หมื่นล้านบาทเป็น 1.54 หมื่นล้านบาท ลาวขยายตัว 9% จาก 1.9 หมื่นล้านบาทเป็น 2 หมื่นล้านบาท และมาเลเซียขยายตัว 0.24% มูลค่าอยู่ที่ระดับ 5.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าภาพรวมมูลค่าการค้าชายแดนปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ 7-8% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าอยู่ที่ 9.24 แสนล้านบาท

สำหรับยุทธศาสตร์สนับสนุนการค้าชายแดน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านการดำเนินธุรกิจระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การพัฒนาด่านการค้าชายแดนจากจุดผ่อนปรนเป็นด่านชายแดนถาวร รวมถึงขยายด่านชายแดนเพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าและการท่องเที่ยว  2.ด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมและอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและบริการระหว่างกัน เช่น การผลักดันให้มีการเจรจาทวิภาคีสำหรับการเดินรถทุกประเภท ระหว่างไทย-พม่า ไทย-มาเลเซีย และไทย-กัมพูชา

3.ด้านกฏระเบียบ เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางด้านกฎระเบียบทางการค้า เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการของไทยสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น เช่น การรับรองแหล่งกำเนินสินค้าบริเวณด่านชายแดน 4.สนับสนุนการร่วมมือการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามด่านชายแดนสำคัญ และ 5.การส่งเสริมธุรกิจชายแดน เช่น การจัดงานแสดงสินค้าบริเวณด่านชายแดนสำคัญ

ด้านนายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อบ้าน กล่าวว่า วิตกว่าการมีรัฐบาลล่าช้าจะเป็นอุปสรรคต่อการลงนามและเดินหน้าตามข้อตกลงเพื่อเพิ่มการค้า การลงทุน เพิ่มการอำนวยความสะดวก และเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ไทยกับประเทศชายแดนถูกเลื่อนออกไปหรือชะงัก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อไทยในการเปิดตลาดเออีซี

ทั้งนี้ สิ่งแรกที่ควรเร่งดำเนินการคือ ขอให้รัฐบาลเจรจาเร่งออก พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด ขอให้รัฐบาลเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันยกฐานะจุดผ่อนปรนทางการค้าที่มีศักยภาพให้เป็นด่านถาวรให้มากที่สุด ขอให้รัฐบาลสนับสนุนให้มีการเปิดทางอนุมัติเฉพาะคราว ตามมาตรา 5 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการขนส่งระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และขอให้รัฐบาลเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางชายแดนมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทาง 3 เหลี่ยมมรกต ประกอบด้วย ประเทศไทย ลาว เวียดนามและเขมร

“ตามแผนที่ได้เสนอรัฐบาลใหม่ จะทำให้การค้าชายแดนขยายตัวปีละ 20% และเพิ่มมูลค่าการค้าถึง 2 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นับจากปี 2556 ที่มีมูลค่า 9.24 แสนล้านบาท โดยปีนี้ยังเชื่อว่าการค้าชายแดนจะขยายตัวได้ 7-10%” นายนิยม กล่าว