ประชุมผู้นำ สหรัฐ-เกาหลีเหนือ
การประชุมครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำสหรัฐ-เกาหลีเหนือ ที่จัดขึ้นในกรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. 2562 นี้
เรื่อง มรกตวงศ์ ภูมิพลับ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การประชุมครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำสหรัฐ-เกาหลีเหนือ ที่จัดขึ้นในกรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. 2562 นี้ เป็นบันทึกประวัติศาสตร์สำคัญของเวียดนาม
ดังที่ได้เคยเขียนในอาเซียนไดอารี่ไปก่อนหน้านี้ว่า ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เวียดนามได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ได้แก่ ความสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แนบแน่น และความสัมพันธ์อย่างยาวนานกับเกาหลีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 อีกทั้งเวียดนามยังเหมาะจะเป็นตัวอย่างของความสำเร็จให้กับเกาหลีเหนือในความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์และสงครามในอดีตเพื่อมุ่งหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐ จนทำให้เวียดนามเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางมายังเวียดนามโดยเครื่องบิน Air Force One ผู้นำเกาหลีเหนือกลับสร้างความน่าสนใจด้วยการเดินทางโดยรถไฟผ่านจีนเพื่อมาบริเวณชายแดนจีน-เวียดนาม โดยลงรถไฟที่สถานีด่งม์ดัง (Dong Dang) จังหวัดหล่างเซิน (Lang Son) ก่อนที่จะได้รับการต้อนรับและเดินทางโดยรถยนต์พร้อมการคุ้มกันมายังกรุงฮานอย
สำหรับบรรยากาศในเวียดนามนั้น เมื่อทางการเวียดนามประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมที่กรุงฮานอย บรรยากาศในกรุงฮานอยก็เป็นไปด้วยความครึกครื้นและยินดีที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้
นักวิเคราะห์เวียดนามมองว่าการประชุมครั้งนี้ว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของเวียดนามให้ดีขึ้น และยังจะสร้างความน่าเชื่อถือในทางเศรษฐกิจเพราะการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ตลอดจนความปลอดภัย และการมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
ชาวเวียดนามหลายคนมองว่าประเทศของตนเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสร้างสันติภาพของโลกและเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของเวียดนามเป็นไปในเชิงบวก แม้จะมีการวิพากษ์ว่าเวียดนามควรถือโอกาสนี้ทำให้ประชาคมโลกรับรู้ปัญหาภายในของเวียดนาม
บรรยากาศในกรุงฮานอยนั้นเป็นไปอย่างอย่างครึกครื้น ชาวเวียดนามกระตือรือร้นในการสร้างสีสันทั้งการทำผมทรงเดียวกับผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ มีการขายเสื้อยืดและของที่ระลึกเป็นภาพนายคิมจองอึนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีการเชิญชวนให้ลิ้มลองเบียร์ “Kim Jong Ale” และ “Peace Negrotiations” รวมไปถึงค็อกเทลซึ่งเป็นสัญลักษณ์การประชุม ศิลปินท้องถิ่นลงสีวาดภาพผู้นำของทั้งสองประเทศและจัดแสดงเพื่อเป็นที่ระลึก ทางการเวียดนามยังเตรียมงานด้วยการเนรมิตถนนสายสำคัญๆ ในกรุงฮานอย ทำความสะอาด ประดับดอกไม้ที่ทำจากผ้าไหม ติดไฟ และยังติดธงชาติสหรัฐ-เกาหลีเหนือด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางการเวียดนามได้คุมเข้มการแสดงออกซึ่งเป็นการล้อเลียนการประชุมครั้งนี้ด้วยการที่ได้ขับฮาร์เวิร์ด เอ็กซ์ ชายหน้าเหมือนกับคิมจองอึน กลับไปยังฮ่องกงหลังจากได้ร่วมกับรัซเซล ไวท์ ชายหน้าเหมือนทรัมป์ ทำการโชว์ตัวเจรจาที่หน้าโรงละครในกรุงฮานอย
ไม่ว่าผลการประชุมจะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นคือการที่เวียดนามได้วางบทบาทตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองระหว่างประเทศระดับโลกได้สำเร็จทั้งระดับรัฐและยังสะท้อนให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของภาคประชาชน
