posttoday

ศาสนา “กาวด่าย” ในเวียดนาม

07 พฤศจิกายน 2561

โดย ... มรกตวงศ์ ภูมิพลับ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดย ... มรกตวงศ์ ภูมิพลับ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ในเวียดนามช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีศาสนาที่น่าสนใจเกิดขึ้นในเวียดนามคือ กาว ด่าย (Cao Dai)

ปี 1926 กาวด่ายเกิดขึ้นจากการที่ โงวันเจียว (Ngo Van Chieu) ข้าราชการอาณานิคมฝรั่งเศสนำคำสอนขงจื๊อ พุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า และความเชื่อท้องถิ่นมาผสมกันและยกนักปราชญ์สำคัญให้เป็นนักบุญ เช่น โยนออฟอาร์ค (Joan of Arc) วิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespeare) วิกตอร์ อูโก (Victor Hugo) ซุนยัตเซ็น เลนิน กระทั่งนักชาตินิยมเวียดนามอย่าง ฟายโบ่ยเจิว (Phan Boi Chau) ก็ถูกนับรวมไปด้วย

กาวด่ายเชื่อว่ามีพระเจ้าสูงสุดสร้างสันติภาพระหว่างศาสนา จึงรวมทุกศาสนาและความเชื่อ ใช้สัญลักษณ์ “ดวงตาข้างซ้าย” ของพระเจ้าผู้สร้างโลก ใช้สี 3 สี ได้แก่ เหลืองหมายถึงศาสนาพุทธ ฟ้าหมายถึงลัทธิเต๋า แดงหมายถึงขงจื๊อ ศาสนานี้แพร่หลายบริเวณปากแม่น้ำโขง ปัจจุบันมีผู้นับถือมากกว่า 4 ล้านคน ศูนย์กลางเป็นวิหารขนาดใหญ่ที่จังหวัดเต็ยนิญ ห่างเมืองโฮจิมินห์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 100 กิโลเมตร กาวด่ายยังมีวิหารย่อยอีกหลายแห่งในเมืองปากแม่น้ำโขง เช่น เบ๋นแจ (Ben Tre) ลองอาน (Long An) ทั้งยังมีสาขาในต่างประเทศ เช่น กัมพูชา สปป.ลาว ออสเตรเลียและอเมริกา ผู้ศรัทธาส่วนมากเป็นชาวเวียดนามโพ้นทะเล

สมัยที่ฝรั่งเศสปกครองอินโดจีน กาวด่ายถึงกับมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเองต่อต้านฝรั่งเศส ต่อมายังเป็นกองกำลังที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเวียดนามใต้ในทศวรรษ 1950 โดยคาดว่ามีกำลังถึง 25,000 คน ประธานาธิบดีโงดิ่ญเสี่ยม (Ngo Dinh Diem) แห่งเวียดนามใต้ได้ทำการปราบศาสนานี้อย่างหนัก แต่หลังจากปี 1975 เมื่อเวียดนามรวมประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์ควบคุมกาวด่ายอย่างเข้มงวดเพราะกาวด่ายวิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ทั้งยังมองว่าเคยเป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ ช่วงนี้สาวกกาวด่ายจำนวนมากจึงหนีไปต่างประเทศ

จนปี 1986 เมื่อเวียดนามเปิดประเทศ รัฐบาลผ่อนปรนกับกาวด่ายมากขึ้น ในปี 2015 ตัวแทนพรรคคอมมิวนิสต์เปลี่ยนมาเชิดชูกาวด่ายในโอกาสครบรอบก่อตั้ง 90 ปีว่าเป็นแนวร่วมการสร้างชาติและต่อต้านผู้รุกราน

ข้อที่น่าสนใจคือ กาวด่ายมีการจัดองค์กรชัดเจน มีผู้นำสูงสุด แบ่งนักบวชตามลำดับชั้น มีกฎหมายของตัวเองคล้ายคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีศูนย์กลางที่นครรัฐวาติกัน วิหารใหญ่ของกาวด่ายที่เต็ยนิญมี

พื้นที่ถึง 475 ไร่ ในพื้นที่นี้มีสำนักงาน เรือนพัก โรงครัว โรงเรียน โรงพยาบาล และพื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมทางศาสนา ให้กับนักบวช รวมทั้งสาวกซึ่งคล้ายกับเมืองเมืองหนึ่ง

ในแต่ละวัน จะมีพิธีสวด 4 ครั้งคือ 6 โมงเช้า เที่ยงวัน 6 โมงเย็น และเที่ยงคืน นักบวชจำนวนมากจะสวมชุดต่างกันตามสีสัญลักษณ์ของศาสนา สาวกสวมชุดสีขาว เมื่อเริ่มสวดจะบรรเลงดนตรีและสวดตามนักบวช กาวด่ายยังมีเทศกาลประจำปีซึ่งแสดงแสดงสีเสียงอย่างยิ่งใหญ่ ต่อมายังเปิดวิหารให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมและเข้าร่วมสังเกตพิธีสวด โดยโปรแกรมนี้ถูกรวมเข้ากับแพ็กเกจทัวร์ที่มักพ่วงกับการไปเที่ยวอุโมงค์กู่จี (Cu Chi) ที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก

มาถึงตอนนี้จึงเรียกได้ว่ากาวด่ายปรับตัวเองจากศาสนาที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองเข้ากับทุนนิยมเรียบร้อยแล้ว

 

ภาพ: การประกอบพิธีกรรมในมหาวิหารกาวด่าย จังหวัดเต็ยนิงห์ (Tay Ninh)

เครดิตภาพ: มรกตวงศ์ ภูมิพลับ