posttoday

ส่องอสังหา โฮจิมินห์

19 กันยายน 2561

ศรษฐกิจของเวียดนามในช่วงที่ผ่านมาร้อนแรงมาก โดยจีดีพีในปี 2560 เติบโตถึง 6.81% เป็นอัตราที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554

ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

เศรษฐกิจของเวียดนามในช่วงที่ผ่านมาร้อนแรงมาก โดยจีดีพีในปี 2560 เติบโตถึง 6.81% เกินกว่าเป้าหมายของรัฐบาลเวียดนามที่ตั้งไว้ 6.7% และยังเป็นอัตราที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554

ปัจจัยหนึ่งมาจากการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวถึง 4.07% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 เช่นกัน และคิดเป็น 0.21% ของจีดีพีรวมทั้งประเทศ จึงไม่แปลกที่จะเห็นตึกใหม่ๆ ผุดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

สุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ให้ข้อมูลว่า ธุรกิจอสังหาฯ เป็นหนึ่งในเทรนด์ธุรกิจที่กำลังมาแรงในโฮจิมินห์ ส่วนหนึ่งมาจากการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้เกิดความต้องการในภาคอสังหาฯ เพิ่มขึ้นตามทั้งในด้านอาคารโรงงาน ตึกสำนักงาน ที่พักอาศัย ไปจนถึงโรงแรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่

นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามเองก็ได้ออกนโยบายเพื่อกระตุ้นและควบคุมสถานการณ์การเติบโตของตลาดอสังหาฯ ในเวียดนามไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับการกระตุ้นก็จะเป็นการลดปัจจัยทางการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาฯ เพื่อช่วยลดข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ การเพิ่มค่าความเสี่ยงของลูกหนี้ในการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ของธนาคารแห่งชาติเวียดนามที่เพิ่มขึ้นจาก 150% เป็น 200% การอนุญาตใช้เงินกู้ระยะสั้น 50% และสำหรับระยะยาวลดเหลือ 40% โดยมีผลตั้งแต่ต้นปี 2561

ขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามได้มอบให้กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามรายงานเกี่ยวกับโครงการบ้านที่อยู่อาศัยเป็นระยะๆ และการที่รัฐสภาประกาศใช้มติ 42 ในการจัดการหนี้เสีย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยในการสนับสนุนกิจกรรมการซื้อและขาย ควบรวมกิจการของโครงการเกี่ยวกับบ้านและที่ดิน เนื่องจากที่ผ่านมาภาคอสังหาฯ มีสัดส่วนขนาดใหญ่ในอัตราหนี้เสีย

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลการคลังแห่งชาติของเวียดนาม ยังเปิดข้อมูลออกมาว่า ในปี 2560 สัดส่วนของสินเชื่อในกิจกรรมธุรกิจอสังหาฯ และก่อสร้างคิดเป็นประมาณ 15.5% ลดลงจากปี 2559 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 17.1% โดยการให้กู้ยืมในกิจกรรมธุรกิจอสังหาฯ คิดเป็น 5.8% ขณะที่การก่อสร้างคิดเป็น 9.7% ขณะที่สินเชื่อเพื่อการบริโภคของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น ทั้งการซื้อ-เช่าซื้อที่อยู่อาศัย การก่อสร้าง ซ่อมบำรุง ตลอดจนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่คิดเป็น 52.9% ของปริมาณสินเชื่อภาคอสังหาฯ

“ภาคอสังหาริมทรัพย์นับเป็น 1 ใน 3 ภาคธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 2,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 7.2% ของมูลค่าการลงทุนในปี 2560 โดยมูลค่าการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์จากบริษัทต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 54.8% และจนถึงปี 2560 เวียดนามมีโครงการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์รวม 24,748 โครงการ” สุภาพร ให้ข้อมูล

เฉพาะปี 2560 เวียดนามมีโครงการลงทุนจากต่างประเทศที่กำลังดำเนินการในภาคอสังหาฯ ประมาณ 600 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการเสนอขายโครงการอสังหาฯ รวม 218 โครงการ ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่าการเติบโตนี้มาจากดีมานด์ที่แท้จริงหรือเป็นการเก็งกำไร ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ ของเวียดนามหรือไม่