posttoday

วินเซนต์ ตัน มหาเศรษฐีมาเลเซีย

17 กันยายน 2561

วินเซนต์ ตัน (Vincent Tan) มหาเศรษฐีแถวหน้าของดินแดนเสือเหลือง มาพร้อมกับมูลค่าทรัพย์สินกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท

ทศพล หงษ์ทอง

วินเซนต์ ตัน (Vincent Tan) มหาเศรษฐีแถวหน้าของดินแดนเสือเหลือง มาพร้อมกับมูลค่าทรัพย์สินกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท จากลูกคนขับรถประจำทาง ในวัย 21 ปี เขาได้เป็นผู้จัดการอายุน้อยที่สุดของบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ทั้งด้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ และกาสิโน ภายใต้ชื่อว่า เบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด (Berjaya Corporation Berhad) ปัจจุบันมีรายได้ปีละ 8 หมื่นล้านบาท ดำเนินกิจการในหลายประเทศทั้งฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อังกฤษ และจีน สร้างชื่อจากการปิดดีลเป็นเจ้าของกิจการแฟรนไชส์ต่างชาติยักษ์ใหญ่ของโลกในมาเลเซียเริ่มจากสตาร์บัคส์ คริสปี้ครีม

วินเซนต์ ตัน มหาเศรษฐีมาเลเซีย

เกรย์ฮาวด์คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อยอดฮิตอย่างเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีมากกว่า 2,000 สาขา โดยเฉพาะการนำแมคโดนัลด์เข้ามาในบ้านเกิด ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนอีกราว 9,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มเป็น 450 แห่ง ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมีสาขา 262 แห่งพร้อมลูกค้า 160 ล้านคน/ปี

“ภาษาเป็นอีกหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ผมคงไม่สามารถนำแมคโดนัลด์เข้ามาในมาเลเซียได้ด้วยวัยเพียง28 ปี หากพูดอังกฤษไม่ได้ ดังนั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ยุคนี้ต้องเรียนรู้ภาษาที่สองหรือภาษาที่สามเอาไว้”

ส่วนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขาภายใต้ชื่อ Berjaya Hotels and Resorts นั้น เป็นเจ้าของเรสซิเดนซ์คอนโดไปจนถึงโรงแรมระดับไฮเอนด์ใน 3 เมืองหลักของมาเลเซีย เช่นเดียวกันกับในประเทศศรีลังกาและในมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ Berjaya Times Square อัดแน่นด้วยร้านค้าปลีกมากกว่า 700 ร้าน พร้อมธีมปาร์กขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างไรก็ตามยังคงมีกิจการร้านค้าปลีกยาและสุขภาพนามว่า Cosway ปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ

นอกจากมหาเศรษฐีผู้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจแล้ว ทั่วโลกยังได้รู้จัก วินเซนต์ ตัน ในฐานะเจ้าของทีมคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สโมสรฟุตบอลจากประเทศเวลส์ ถูกเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในระดับพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งในฤดูกาล 2018-2019 ซึ่งในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมาได้ลงทุนไปมากกว่า 1,400 ล้านบาท เพื่อซื้อแข้งใหม่เข้ามาเสริมทีมถึง 9 คน อย่างไรก็ตามเขายังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลในเบลเยียมและบอสเนีย รวมถึงเป็นหุ้นส่วนหลักของสโมสรฟุตบอลในสหรัฐ นามว่า Los Angeles FC

วินเซนต์ ตัน ฝากข้อคิดไปถึงคนที่มีความฝันเหมือนกันว่า การเริ่มต้นธุรกิจอย่าคาดหวังผลตอบแทนสูง ครอบครัวผมยากจนเหมือนคนส่วนใหญ่จึงเลือกใช้วิธีลงทุนทีละน้อยให้ความสำคัญกับเรื่องบริหารความเสี่ยงและควบคุมต้นทุน

“จงอย่าลืมว่าความยากจนมีแรงผลักดันไปสู่ความสำเร็จที่เข้มข้นกว่าคนมีอันจะกิน” เขากล่าวทิ้งท้าย