posttoday

'หาคู่' เพื่อประชาชนในสิงคโปร์

23 พฤษภาคม 2561

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ในเมืองแต่งงานกันช้าลงเพราะยุ่งอยู่กับการงาน ผู้หญิงมีการศึกษาสูงขึ้นก็ยิ่งแต่งงานช้า ผลคืออัตราเกิดต่ำ

โดย...ผศ.มรกตวงศ์ ภูมิพลับ คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ในเมืองแต่งงานกันช้าลงเพราะยุ่งอยู่กับการงาน ผู้หญิงมีการศึกษาสูงขึ้นก็ยิ่งแต่งงานช้า ผลคืออัตราเกิดต่ำ หลายประเทศในอาเซียนเผชิญปัญหานี้จนกลายเป็นสังคมสูงวัย (Aging Society) โดยเฉพาะสิงคโปร์ต้องใช้แรงงานต่างชาติจำนวนมากในงานประเภทที่คนสิงคโปร์ไม่ทำ อีกทั้งในระยะยาวประชากรสิงคโปร์อาจกลายเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศตัวเองหากยังปล่อยให้สถานการณ์นี้ดำเนินต่อไป

นโยบายส่งเสริมการมีคู่จึงถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มทารกแรกเกิดและระยะยาวจะเพิ่มแรงงานให้ประเทศ นโยบายนี้เริ่มตั้งแต่ปี 1984 เนื่องจากผู้หญิงที่จบมหาวิทยาลัยมีมากกว่าผู้ชายที่จบการศึกษาระดับเดียวกัน ผู้หญิงกลุ่มนี้ต้องการแต่งงานกับผู้ชายที่ได้รับการศึกษาสูงกว่า เมื่อไม่มีตัวเลือกพวกเธอจึงไม่แต่งงาน

ลีกวนยู นายกฯ ขณะนั้นจัดตั้งหน่วยงานพัฒนาสังคม (Social Development Unit) เพื่อสนับสนุนคนโสดที่จบมหาวิทยาลัยหาคู่ ต่อมาในปี 1990 รัฐบาลยังได้ขยายกลุ่มเป้าหมายที่ไม่จำกัดอยู่เฉพาะหนุ่มสาวที่จบมหาวิทยาลัยแต่ยังรวมถึงบรรดาคนโสดที่เรียนไม่จบระดับมัธยมศึกษาโดยจัดตั้งหน่วยงานบริการการพัฒนาสังคม (Social Development Service - SDS) ขึ้นมาเพื่อดูแลโดยเฉพาะ ทว่าตั้งแต่ปี 2009 ทั้ง SDU และ SDS ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเครือข่ายพัฒนาสังคม (Social Development Network -SDN) อยู่ภายใต้กระทรวงพัฒนาชุมชน เยาวชนและกีฬา

SDN เป็นสื่อกลางหาคู่และออกเดท จัดกิจกรรมมากมาย เช่น เต้น Hip-Hop ลีลาศ เรียนทำอาหารจัดงานเลี้ยง จัดท่องเที่ยวเพื่อให้คนมาทำความรู้จักกัน ในสิงคโปร์บัณฑิตที่จบใหม่จะได้รับเทียบเชิญให้ร่วมกิจกรรมที่ SDN จัด ยังมีการเปิดให้สมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงาน คือ www.sdn.sg

SDN ยังผลิตนิตยสาร "DUET" ออกทุกสามเดือนมีเนื้อหาเกี่ยวกับการออกเดท การสานความสัมพันธ์ บทความจากกูรูความรัก บอกข่าวกิจกรรมต่างๆ  อย่างไรก็ตาม DUET หยุดนิตยสารกระดาษไปพักหนึ่งแล้วและเปลี่ยนรูปแบบเป็นข่าวสารออนไลน์ในเฟซบุ๊กและอีเมลจดหมายข่าว

SDN ใช้งบปีละประมาณ 7.5 ล้านบาท ผลตอบรับระยะเริ่มแรกเป็นบวกในปี 1984 มีคนโสดร่วมโครงการถึง 700 คน 10 ปีหลังเริ่มโครงการ มีสัดส่วนคู่แต่งงานจากโครงการนี้ 1,000 คู่/ปี เพิ่มเป็น 4,050 คนในปี  2003 โดยสรุปมีคนสละโสด 3.5 หมื่นคู่ หลังทำโครงการนานสองทศวรรษ ทั้งนี้ ยังมีเอเยนซีที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงพัฒนาครอบครัวและสังคม (Ministry of Social and Family Development) อีก 13 ราย

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดการโครงสร้างและการพัฒนาแทบทุกอย่าง ซึ่งรวมไปถึงความพยายามในการจัดการความรัก ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเรื่อง "หาคู่ให้ประชาชน" คืออีกเรื่องที่รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญ


ภาพ : https://www.sdn.sg/Resources/Pages/ DUETMagazine.aspx)