ค่าไฟในฟิลิปปินส์
ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และค่าไฟฟ้าก็เป็นต้นทุนที่สำคัญของภาคการผลิตด้วยเช่นกัน
ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และค่าไฟฟ้าก็เป็นต้นทุนที่สำคัญของภาคการผลิตด้วยเช่นกัน จึงทำให้แต่ละประเทศต้องวางแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม
ทั้งนี้ จากการสำรวจเมื่อสิ้นปี 2559 พบว่า ฟิลิปปินส์ยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราค่าไฟฟ้าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากมองในแง่ของอัตราค่าไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม ค่าไฟฟ้าในฟิลิปปินส์อยู่ที่ประมาณ 5.84 เปโซ/กิโลวัตต์ชั่วโมง ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์
ขณะที่ค่าไฟในภาคพาณิชย์ ฟิลิปปินส์มีอัตราค่าไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 7.49 เปโซ/กิโลวัตต์ชั่วโมง และค่าไฟฟ้าในภาคครัวเรือนอยู่ที่ 8.90 เปโซ/กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือตกประมาณเกือบ 7 บาท/หน่วย ขณะที่ค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนของไทยเฉลี่ยอยู่ที่หน่วยละ 3 บาทกว่า ส่วนเวียดนามอยู่ที่ 1.87 บาท/หน่วย และอินโดนีเซียอยู่ที่ 2.31 บาท/หน่วย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตราค่าไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ยังคงราคาสูง คือ ขาดการอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งต่างจากประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ต่างมีการอุดหนุนอุตสาหกรรมพลังงาน นอกจากนี้ยังมีการลดภาษีและค่าธรรมเนียมในการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ที่เก็บจากผู้บริโภค
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ สตาร์ ของฟิลิปปินส์ ได้รายงานว่า ฟิลิปปินส์ได้พยายามลดต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า จนทำให้อัตราค่าไฟฟ้าของฟิลิปปินส์ย้ายจากประเทศที่มีค่าไฟฟ้าสูงสุดอันดับ 2 ในเอเชีย เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคนี้ และเป็นอันดับ 4 ในเอเชียแปซิฟิก และอันดับที่ 16 จากทั่วโลก
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าในฟิลิปปินส์สูงนั้น มาจากการที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศหมู่เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะมีความต้องการพลังงานที่มีเสถียรภาพและราคาไม่แพง ประการที่สอง คือ ต้นทุนเชื้อเพลิงแต่ละประเภทที่นำมาผลิตไฟฟ้า และสาม หากเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย การใช้พลังงานถ่านหินของประเทศฟิลิปปินส์มีปริมาณน้อยมาก โดยมาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม มีอัตราการขยายตัวของการใช้ถ่านหินจากปี 2543-2557 มากกว่าฟิลิปปินส์เกือบ 2 เท่า
อย่างไรก็ดี แม้ว่าค่าไฟฟ้าในฟิลิปปินส์จะอยู่ในระดับสูงอันดับต้นๆ ของภูมิภาค แต่ฟิลิปปินส์ยังคงมีอัตราการใช้ไฟฟ้าต่อหัวที่ต่ำอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงมีการแสดงความเห็นถึงเป้าหมายของกระทรวงพลังงานที่ต้องการให้พลังงานหมุนเวียนมีส่วนในการผลิตไฟฟ้าขั้นต่ำ 30% ว่าอาจจะกลายเป็นกับดัก ทำลายความคล่องตัวของประเทศที่จะใช้พลังงานราคาถูก และมั่นคงกว่าอย่างถ่านหิน และฟิลิปปินส์ต้องการพลังงานราคาถูกเพื่อลดค่าไฟของประเทศฟิลิปปินส์
เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ต้องรู้และเข้าใจว่าต้องการอะไรเพื่อที่จะได้เดินและวางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศได้ถูกทาง