posttoday

การบริหารความหลากหลาย สโมสรฟุตบอลอาชีพของไทย

10 ตุลาคม 2560

เป็นที่ยอมรับกันว่า โลกปัจจุบันที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทุกสารทิศ จึงเกิดแนวทางการบริหารความหลากหลายหรือ Diversity & Inclusion ที่เรียกกันสั้นๆ ว่า D&I

โดย...ดิลก ถือกล้า

เป็นที่ยอมรับกันว่า โลกปัจจุบันที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทุกสารทิศ จึงเกิดแนวทางการบริหารความหลากหลายหรือ Diversity & Inclusion ที่เรียกกันสั้นๆ ว่า D&I หากอธิบายแบบเข้าใจได้ง่ายก็คือ การยอมรับในจุดต่าง แสวงหาจุดร่วม สร้างแนวทางการอยู่ร่วมกันเพื่อให้องค์กรเกิดประโยชน์สูงสุดจากความหลากหลายและแตกต่างนั้น

และเมื่อมองมาที่องค์กรในไทย หากไม่ใช่เป็นองค์กรบริษัทข้ามชาติอย่าง IBM หรืออย่าง Shell การพูดถึงเรื่อง D&I อาจจะเป็นเรื่องไม่คุ้นเคยนัก ดังนั้นเวลาที่องค์กรที่สนใจปรับใช้เรื่อง D&I จึงมักจะมองไปที่องค์กรตัวอย่างเช่น IBM หรือ Shell เพื่อจะเรียนรู้นำมาปรับใช้ แต่ผมเห็นว่าองค์กรในเมืองไทยที่มีการบริหาร D&I ได้อย่างน่าสนใจคือ สโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย โดยเฉพาะที่อยู่ในลีกสูงสุด เพราะสโมสรเหล่านี้จะมีนักเตะที่มาจากหลายเชื้อชาติทุกมุมโลกทั้งญี่ปุ่น เกาหลี สเปน อังกฤษ บราซิล แคเมอรูน เป็นต้น ผมมักติดตามดูกิจกรรมทั้งในสนามและนอกสนามโดยเฉพาะสโมสรใหญ่ๆ ว่า เขาทำอย่างไรที่จะผสมผสานความแตกต่างทางเชื้อชาติจนให้เกิดพลังของทีมที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในสนามแข่งขันได้ ผมสังเกตเห็นดังนี้ครับ

1.สโมสรสร้างสภาพแวดล้อมที่พร้อมให้นักฟุตบอลต่างชาติปรับตัวได้ มีการเตรียมล่ามไว้ให้เวลาฝึกสอน มีการระบุตัวให้นักฟุตบอลคนไทยเป็นพี่เลี้ยงที่คอยให้ข้อแนะนำช่วยเหลือเรื่องต่างๆ เพื่อให้ปรับตัวได้ทั้งการกินการอยู่ การเดินทาง แต่สำหรับสโมสรที่ผมคิดว่าได้สร้างสภาพแวดล้อมได้ดีมากคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีแคมป์ที่พักที่มีความพร้อมอย่างมากให้กับนักกีฬา

2.สโมสรสร้างความผูกพันในทีมผ่านกิจกรรม เพราะสปิริตแห่งทีมคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ทีมสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ หลายสโมสรในไทยจะมีกิจกรรมให้นักกีฬาทั้งไทยและต่างชาติได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มีทั้งกิจกรรมแบบไทยๆ เช่น ร่วมรดน้ำดำหัววันสงกรานต์ กิจกรรมแบบหลุดโลกเช่นให้นักฟุตบอลแต่งแฟนซีชนิดลืมอาย หรือกิจกรรมที่ออกไปแนวผจญภัย (Adventure) ร่วมกัน กิจกรรมเหล่านี้ล้วนสร้างความเป็นทีมที่ข้ามความแตกต่างได้เป็นอย่างดี

3.สโมสรสร้างเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ร่วมกัน ข้อนี้อาจเป็นข้อได้เปรียบของการเป็นสโมสรกีฬาที่สามารถกำหนดเป้าหมายร่วมให้ทั้งทีมพุ่งไปทางเดียวกัน โดยลืมความต่างของเชื้อชาติไป เช่น มีเป้าหมายรักษาแชมป์ มีเป้าหนีตกชั้น เป็นต้น

4.สโมสรสร้างโอกาสที่เท่าเทียมในการลงเป็นตัวจริงไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ถือเป็นจุดสำคัญในการบริหารความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักฟุตบอล เพราะธรรมชาติของการเลือกคนลงแข่ง โค้ชจะต้องเลือกคนที่ดีที่สุดและพร้อมที่สุด การที่ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันแบบนี้ ทำให้นักเตะต่างชาติจะไม่เกิดความรู้สึกว่าตนขาดโอกาส ทำให้เขาทุ่มเทเต็มที่ในการสร้างผลงาน และสร้างความรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม (Inclusion) ได้เป็นอย่างดี

ท่านผู้บริหารองค์กรที่สนใจเรื่องการบริหารความหลากหลายในองค์กร น่าจะลองเข้าไปนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้บริหารสโมสรกีฬาชั้นนำเพื่อนำมาปรับใช้ ซึ่งผมเชื่อว่า จะได้ตัวอย่างจริง ปรับใช้ได้จริงในสภาพแวดล้อมแบบไทยๆ ได้เป็นอย่างดี