posttoday

รถติดที่มหานครย่างกุ้ง

07 สิงหาคม 2560

มีเพื่อนถามมาว่า เขาไปเที่ยวที่มหานครย่างกุ้งมา ทำไมถึงรถติดแหลกลาญขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ประเทศเมียนมาเองก็ไม่ใช่เป็นประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่โตหรือร่ำรวยมาก

โดย...กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

มีเพื่อนถามมาว่า เขาไปเที่ยวที่มหานครย่างกุ้งมา ทำไมถึงรถติดแหลกลาญขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ประเทศเมียนมาเองก็ไม่ใช่เป็นประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่โตหรือร่ำรวยมาก แต่ทำไมรถราถึงได้มีมากมายขนาดนั้น คำตอบคือง่ายๆ ครับ รถมากกว่าถนนครับ ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีการนำเข้ารถมือสองจากประเทศญี่ปุ่นมาขายเยอะมากครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับ

ในยุคที่ผมเข้ามาทำมาหากิน ที่นี่ใหม่ๆ เป็นยุคที่ค่อนข้างจะมี รถราน้อยมาก อย่างที่ผมเคยเล่าให้ได้ อ่านไปแล้ว แต่พอในวันที่ 2 เม.ย. 2555 รัฐบาลของท่านประธานาธิบดี เต็งเส่ง ได้ประกาศใช้กฎหมายเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา จากเดิมที่เคยกำหนดให้อัตรา แลกเปลี่ยนเงินสกุลจ๊าด/ดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 1:6.5 จ๊าด ในขณะที่ความเป็นจริงในท้องตลาด อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1:820 จ๊าด ให้บังคับใช้อัตราเปลี่ยนแปลงเป็น 1:820 จ๊าด ทั่วประเทศทันที

ขณะนั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาก ตลาดตอบรับอย่างเห็นได้ชัดครับ ราคาสินค้าเริ่มมีความมั่นคงขึ้น การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนก็เริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เสียดายที่ในช่วงนั้นเมียนมาเพิ่งเปิดประเทศ นักเศรษฐศาสตร์ยังมีไม่มาก และยังไม่มีการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจออกมาเป็นทางการ เราจึงไม่สามารถจะหาตัวเลขของดัชนีชี้วัดต่างๆ ที่แม่นยำและเที่ยงตรงได้ครับ หรือเขาอาจจะมีแต่ผมไม่รู้ก็ได้ ผมจึงไม่สามารถนำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันได้ครับ

หลังจากประกาศใช้กฎหมายอัตราแลกเปลี่ยน สิ่งที่ตามมาอีกอย่างนอกจากการกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยคือ คนเริ่มสรรหาสิ่งอำนวยความสะดวกมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น นอกจากปัจจัยของการดำรงชีพทั้งสี่ ที่เขาได้เริ่มแสวงหาแล้ว แน่นอนปัจจัยที่ห้าคือรถยนต์หรือยานพาหนะ เขาก็ต้องการหาซื้อกันมากเช่นกัน

ในยุคนั้นเราจะเห็นว่ามีโบรกเกอร์หรือพวกซื้อขายรถยนต์เข้ามาในเมืองไทย หาซื้อรถมือสองไปใช้กันมากมาย ที่ด่านแม่สอดจะคึกคักมากในการซื้อขายรถยนต์ รัฐบาลเองก็เริ่มต้านทานดีมานด์ของประชาชนไม่ไหว ต่อมาเพียงไม่กี่วันรัฐบาลจึงประกาศยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้ารถยนต์ โดยประกาศให้บริษัทห้างร้านใดที่มีการฝากเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐที่ธนาคาร ล้วนมีสิทธิที่จะนำเข้ารถยนต์ได้

เท่านั้นแหละครับเกิดความโกลาหลขึ้นทันที เพราะภายใน 1 เดือน ได้มีบริษัทนำเข้ารถมาเพื่อจำหน่ายเกิด ขึ้นมา 200 กว่าราย ต่างเร่งนำเข้ามาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคกันอย่างมากมายและสนุกสนาน ผมไปเที่ยวหาเพื่อนที่เขาทำธุรกิจข้าวสารอยู่ดีๆ ก็กระโดดเข้ามาสู่ธุรกิจรถ มือสอง เขาจ้างคนเมียนมาที่เคยไปทำงานที่ญี่ปุ่น สามารถอ่าน เขียน พูด ภาษาญี่ปุ่นได้เข้ามาทำงาน มีหน้าที่ติดต่อญี่ปุ่นโดยตรง แล้วไปเปิดบัญชีที่ตลาดประมูลรถยนต์ที่โตเกียว ทำ การประมูลซื้อรถที่ญี่ปุ่นทุกวันที่ ย่างกุ้ง เรียกว่ากิจการช่วงแรกเป็นไปได้ด้วยดีมาก

แต่พอหลังจากนั้นไม่นาน ก็...เจ๊งครับ เพราะมีคนทำแบบนี้แทบทุกราย และทำให้เกิดอุปทานล้นตลาดทันที รถนำเข้ามาขายไม่ได้มากครับ เป็นอันต้องปิดบริษัทไปเลยครับ และยังมีรายอื่นๆ อีกมากที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน หากท่านได้ไปที่ท่าเรือ ติลาหว่า จะเห็นรถยนต์จอดฝุ่นจับเต็มไปหมดครับ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะที่นำเข้ามาแล้วหากไปจ่ายภาษีเสร็จ ก็ต้องนำเข้ามาแล้วต้องหาที่จอดรถ แต่ถ้าจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือค่าจอดรถถูกกว่าที่จะหาที่ย่างกุ้ง เลยมีหลายบริษัทยอมจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือ ยังไม่ไปจ่ายภาษีนำเข้า รอจนกว่าจะมีคนซื้อค่อยไปจ่ายภาษีครับ