รุมค้านออกกม.นิรโทษ-ท้าเพื่อไทยทำประชามติ

นักวิชาการ-เอ็นจีโอ ค้านเพื่อไทยเคลื่อนไหวออก พรบ.นิรโทษกรรม ชี้พุ่งเป้าช่วยคนๆเดียว ท้าทำประชามติพิสูจน์ความต้องการประชาชน

นายชัยพันธ์ ประภาสวัติ ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิชุมชน กล่าวไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ทั้งๆที่รัฐบาลมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่จะช่วยประชาชนในการฟื้นฟูหลังจากปัญหาน้ำท่วม และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่วาระเร่งด่วน ที่ผ่านมาทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก็ไม่เคยออกมาเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมทุกคนและพร้อมสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

พรรคเพื่อไทยอย่าอ้างว่าได้รับเลือกตั้งมาด้วยคะแนน 15ล้านเสียงและจะสามารถทำสิ่งใดก็ได้ เพราะมีประชาชนที่เหลืออีก 40 ล้านเสียง อย่างไรก็ตามหากพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ขอให้มีการยกร่างออกมาดูก่อน จากนั้นก็ให้มีการทำประชามติว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่ โดยให้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนและวุฒิสภา

"ไม่มีใครคัดค้านไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย อยากกลับเมื่อไรก็ขอให้กลับแต่อย่ามาลัดขั้นตอน อ้างว่าจะนิรโทษทุกสีทุกกลุ่ม ชาวบ้านเวลาโดนเจ้าหน้าที่รัฐจับ เพราะต่อต้านการสร้างเขื่อนยังกล้าที่จะสู้ทุกชั้นศาล ตามกระบวนการยุติธรรม ผมอยากให้คุณทักษิณกลับมาสู้อย่างนี้  ไม่ใช่ว่าทำผิดแล้วจะไม่ยอมรับโทษใดๆเลย"นายชัยพันธ์ กล่าว

ขณะที่นายสมชาย รัตนซื่อสกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ปัญหาการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้หรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตัวเนื้อหา เพราะรัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาก็เคยออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับคณะปฏิวัติมาหลายครั้ง แต่การผลักดันของพรรคเพื่อไทยในเรื่องดังกล่าว มีจุดประสงค์แอบแฝงคือ ต้องการช่วยเหลือคนๆเดียว ซึ่งเชื่อว่าจะมีปัญหาตามมาแน่นอน

นายสมชาย กล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลมองข้ามตัวบุคคลคือพ.ต.ท.ทักษิณไปให้พ้น ต้องไม่ลืมว่า ผลการศึกษาของคอป.ได้ระบุออกมาชัดว่า ต้นตอของปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง บ้านเมืองจะต้องมีหลัก และที่สำคัญคือการเคารพหลักการตามกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม

"ถ้าจะให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา โดยไม่มีความผิดเลย เชื่อว่าจะมีกลุ่มที่ไม่พอใจ หรือฝ่ายต่อต้านออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน จะสังเกตได้ว่าการออกพ.ร.บ.การออกนิรโทษกรรมที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีใครตั้งเครื่องหมายคำถาม แต่ทำไมกรณีนี้ จึงมีคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าการผลักดันเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องของหลักการแล้ว แต่มีเป้าหมายเพื่อช่วยบุคคลเป็นหลัก"นายสมชายกล่าว