posttoday

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

12 กันยายน 2560

แฟชั่น “เท้าดอกบัว” ที่ใช้วัดคุณค่าของหญิงชาวจีนเมือ่ 1,000 ปีที่แล้ว แม้จะเจ็บปวดและทรมานแค่ไหนก็ต้องทน เพราะหากไม่ทำก็จะไม่ได้แต่งงาน!

แฟชั่น “เท้าดอกบัว” ที่ใช้วัดคุณค่าของหญิงชาวจีนเมือ่ 1,000 ปีที่แล้ว แม้จะเจ็บปวดและทรมานแค่ไหนก็ต้องทน เพราะหากไม่ทำก็จะไม่ได้แต่งงาน!

หากแฟชั่นในยุคปัจจุบันมักจะแข่งกันแปลกเพื่อให้ดูแตกต่าง ลองมาดูแฟชั่นในอดีตที่ดูแล้ว “แข่งกันเจ็บ” ซะมากกว่ากับความงดงามตามแบบฉบับจีนโบราณ “เท้าดอกบัว”

แฟชั่น “เท้าดอกบัว” ที่ฮิตในสมัยจีนโบราณเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว มีต้นกำเนิดมาจากชนชั้นสูง เป็นแฟชั่นที่ใช้วัดคุณค่าของหญิงชาวจีน เพราะในสมัยนั้นมองว่าผู้หญิงที่มีเท้าเล็กมากเท่าใดก็จะดูงดงามมากเท่านั้น พ่อแม่จึงนิยมให้ลูกสาวมี “เท้าดอกบัว” เพื่อที่จะได้แต่งงานในตระกูลที่ร่ำรวยนั่นเอง

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

แน่นอนว่ากว่าจะเป็น “เท้าดอกบัว” ที่ดูผิดรูป ผิดสรีระของร่างกายแบบนี้ สาวชาวจีนเหล่านั้นต่างก็ต้องผ่านความเจ็บปวดต่างๆ มากมาย เพราะ “ยิ่งเท้าเล็ก ยิ่งดี” ดังนั้นจึงต้องเริ่มกระบวนการทำเท้าดอกบัวกันตั้งแต่เด็ก ส่วนมากจะเริ่มทำเมื่อเด็กอายุ 4-9 ขวบ โดยเริ่มจากการทำลายกระดูก และจัดเท้าใหม่ให้เป็นรูปเกือกม้า รวมถึงการถอดเล็บออกให้หมดทุกนิ้วด้วย จากนั้นก็จะมัดไว้แบบนั้นตลอดเพื่อให้เป็นรูปดอกบัว

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

มาดูแฟชั่น “เท้าดอกบัว” ในยุคจีนโบราณที่แปลกและทรมานสุดๆ

ซึ่งในบทสัมภาษณ์หญิงชาวจีนที่มีเท้าดอกบัวได้เล่าว่า “ฉันไม่สามารถเต้นหรือเดินได้แบบคนทั่วไป ซึ่งแม้ว่าฉันจะเสียใจที่มีเท้าแบบนี้ แต่หากในตอนนั้นไม่ทำเท้าดอกบัว ก็จะไม่มีใครมาขอแต่งงาน”

ดูเป็นแฟชั่นที่สมัยนี้ไม่มีใครเข้าใจแน่ๆ หากต้องทรมานขนาดนี้เพื่อให้ได้แต่งงานล่ะก็ เชื่อว่าสาวๆ สมัยนี้คงเลือกที่จะอยุ่คนเดียวไปตลอดชีวิตยังดีซะกว่า

ที่มา: Thevintagenews