posttoday

หวั่นพายุฉุดเศรษฐกิจสหรัฐ

10 กันยายน 2560

นักวิเคราะห์มองเฮอริเคนเออร์มากระทบเศรษฐกิจขยายตัว วิตก “สตอร์ม เซิร์จ” ทำภัยพิบัติแรงขึ้น

นักวิเคราะห์มองเฮอริเคนเออร์มากระทบเศรษฐกิจขยายตัว วิตก “สตอร์ม เซิร์จ” ทำภัยพิบัติแรงขึ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่า ผลกระทบจากเฮอริเคนเออร์มา เสี่ยงกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐปี 2017 หลังฮาร์วี่ย์ก่อความเสียหายหนักเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

“เออร์มาจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ อ่อนแอลง หลังได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนมาแล้วก่อนหน้านี้” มิเชล เมเยอร์ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจสหรัฐ ของธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าว พร้อมลดการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 3 ลง 0.4% ไปอยู่ที่ 2.5%

ด้าน ชัค วัตสัน นักวิเคราะห์ด้านผลกระทบจากภัยพิบัติจากบริษัทวิจัย เอนคี รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า เออร์มาอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.62 ล้านล้านบาท) โดยเฉพาะในรัฐฟลอริดาที่ความเสียหายมีแนวโน้มอยู่ที่ 1.35 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 4.47 ล้านล้านบาท)

ความเสียหายดังกล่าวสูงกว่าคาดการณ์ผลกระทบจากฮาร์วี่ย์ที่ 1.8 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 5.96 ล้านล้านบาท) ในรัฐเทกซัสและรัฐหลุยเซียนา

ทว่า นาริมาน เบห์ราเวช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทวิจัย ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ความอ่อนแรงทางเศรษฐกิจคาดว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราวเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เออร์มาพัดถล่มคิวบาด้วยความแรงระดับ 5 ส่งผลให้มีผู้ชีวิต 21 ราย ก่อนจะลดความรุนแรงมาอยู่ที่ระดับ 4 และเคลื่อนตัวมายังทางใต้ของรัฐฟลอริดาในวันนี้ โดยรัฐฟลอริดาสั่งอพยพประชาชน 5.6 ล้านราย ขณะที่สำนักจัดการภาวะฉุกเฉินส่วนกลางของสหรัฐ (ฟีมา) คาดการณ์ว่า เออร์มาเสี่ยงทำให้ประชาชน 9 ล้านรายในรัฐฟลอริดาไม่มีไฟฟ้าใช้

ขณะเดียวกัน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ เตือนว่า คลื่นพายุซัดฝั่ง (สตอร์ม เซิร์จ) จากเออร์มา ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 3.65 เมตร และไหลท่วมอาคารบ้านเรือน อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนมากที่สุด

สถานการณ์พายุส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบร่วง 3.3% เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรับลงมากที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค. จากความวิตกว่าความต้องการใช้น้ำมันและดีมานด์เชื้อเพลิงอาจปรับตัวลง หากเออร์มาพัดถล่มรัฐฟลอริดา เนื่องจากรัฐฟลอริดาใช้น้ำมันเกือบสูงสุดในประเทศรองจากรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเทกซัส

ภาพ...เอเอฟพี