posttoday

"ทรัมป์"จุดชนวนอีกรอบ ด้วยการกล่าวโทษทั้งสองฝ่าย ในความขัดแย้งที่เวอร์จิเนีย

16 สิงหาคม 2560

ผู้นำสหรัฐจุดชนวนทางการเมืองขึ้นมาอีก ด้วยการกล่าวโทษทั้งสองฝ่ายที่ทำให้เกิดความรุนแรง ระหว่างการชุมนุมที่ชาร์ลอตต์วิลล์

ผู้นำสหรัฐจุดชนวนทางการเมืองขึ้นมาอีก ด้วยการกล่าวโทษทั้งสองฝ่ายที่ทำให้เกิดความรุนแรง ระหว่างการชุมนุมที่ชาร์ลอตต์วิลล์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า - ผู้นำสหรัฐได้จุดฉนวนทางการเมืองอีกรอบด้วยการกล่าวโทษทั้งสองฝ่ายที่ทำให้เกิดความรุนแรงในการชุมนุมของกลุ่มชาตินิยมผิวขาว และกลุ่มเสรีนิยม ที่เมืองชาร์ลอตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้ผู้นำสหรัฐซึ่งได้รับการกดดันจากหลายฝ่ายให้ออกมาประณามกลุ่มชาตินิยมผิวขาว และกลุ่มนีโอนาซีว่าเป็นอาชญากรหลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาไม่ได้กล่าวตำหนิฝ่ายชาตินิยมผิวขาวอย่างชัดเจน ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์กว่า เขาเบื่อหน่ายกับประเด็นนี้ และคิดว่าต้องโทษทั้งสองฝ่าย

“ผมเชื่อว่ามันก็มีส่วนผิดกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ” ทรัมป์ กล่าว

“ฝ่ายหนึ่งก็เป็นคนไม่ดี แต่อีกฝ่ายก็ใช้ความรุนแรงมากเหมือนกัน ถึงไม่มีใครอยากพูด แต่ผมจะพูดในวันนี้” ทรัมป์ ระบุ

“แล้วพวกซ้ายจัดที่ตรงเข้าไปทำร้ายพวกขวาจัดล่ะ? พวกเขามีความสำนึกผิดบ้างไหม? เหรียญมันก็ต้องมี 2 ด้าน”

คำกล่าวของนายทรัมป์ทำให้มีเสียงตอบรับด้วยความชื่นชมจากนายเดวิด ดุค ซึ่งอยู่ในสังกัดกลุ่มคูคลักซ์แคลนและมีบทบาทนำในการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ว่า ขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีความซื่อสัตย์และกล้าหาญในการพูดความจิรงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ และประณามกลุ่มฝ่ายซ้าย

ทั้งนี้ประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งเพิ่งทำตามกระแสกดดันให้ประณามกลุ่มชาตินิยมผิวขาวคูคลักซ์แคลน และกลุ่มนีโอนาซีว่าเป็นอาชญากรหลังจากที่มีเสียงวิจารณ์ว่าเขาไม่ได้กล่าวตำหนิฝ่ายชาตินิยมอย่างชัดเจน เหตุรุนแรงเมื่อวันเสาร์บานปลายกลายเป็นการนองเลือดเมื่อนายเจมส์ ฟิลส์ ชายวัย 20 ปีที่มีแนวคิดนิยมนาซี ขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 19 คน