posttoday

ญี่ปุ่นตั้งเป้า ลดอัตราฆ่าตัวตายลงในอีก 10 ปี

26 กรกฎาคม 2560

รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนลดชั่วโมงการทำงานซึ่งเป็นสาเหตุการฆ่าตัวตายภายใน 10 ปี

รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนลดชั่วโมงการทำงานซึ่งเป็นสาเหตุการฆ่าตัวตายภายใน 10 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน - รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะอัตราฆ่าตัวตายลงให้ได้ร้อยละ 30 ภายใน10 ปี  ด้วยการลดชั่วโมงการทำงานลง โดยที่ผ่านมาญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในกลุ่มประเทศจี7 (กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่) โดยในแต่ละปีมีคนฆ่าตัวตายมากกว่า 20,000 คน คิดเป็นร้อยละ 18.5 ต่อประชากร 100,000 คนในปี 2015 รัฐบาลต้องการให้ตัวเลขนี้ลดลงต่ำกว่า 13.0 ในปี 2025

ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยมีอัตราฆ่าตัวตายสูงถึง 34,427 คนในปี 2546 แต่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 21,897 คนเมื่อปีก่อน รัฐบาลระบุว่า เป็นผลจากนโยบายที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007  และมีการทบทวนทุก 5 ปี ล่าสุดรัฐบาลได้ผ่านความเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ย้ำว่าจะเดินหน้าผลักดันมาตรการลดการฆ่าตัวตายอันเกิดจากการทำงาน ด้วยการลดชั่วโมงทำงานที่หนักเกินไปและป้องกันไม่ให้นายจ้างคุกคามหรือกดดันการทำงานของลูกจ้างมากจนเกินไป

ทั้งนี้ที่ผ่านมาในวัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุ่น ถือว่าการทำงานอย่างหนักและทุ่มเทเพื่อองค์กร เป็นการแข่งขันเพื่อการพัฒนาตนเอง แต่ในที่ผ่านมามีชาวญี่ปุ่นหลายหมื่นคนฆ่าตัวตายจากความเครียดและแรงกดดันจากสังคมและการทำงาน

ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นมุ่งหาทางแก้ปัญหาคนฆ่าตัวตายเพราะการทำงาน เกิดขึ้นหลังจากกรณีของพนักงานสตรีวัย 24 ปีของบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฆ่าตัวตายในปี 2558 เพราะทำงานล่วงเวลามากกว่าเดือนละ 100 ชั่วโมง จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ ล่าสุดรัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานต้องออกประกาศรายชื่อบริษัทกว่า 300 แห่งทั่วประเทศว่าให้พนักงานทำงานล่วงเวลาอย่างผิดกฎหมายและละเมิดระเบียบการทำงานอื่น ๆ เมื่อเดือนพฤศภาคมที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกันนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกแคมเปญรณรงค์ให้ชาวญี่ปุ่นในหลายองค์กรทำงานที่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนและควาแออัดบนรถไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน เพื่อเตรียมรับมือการจัดกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อนในปี 2020