posttoday

"ไม่เข้าคุก ก็ลงนรก" ดูเตอร์เตกร้าวเดินหน้าปราบยาเสพติด ไม่สนเสียงวิจารณ์

25 กรกฎาคม 2560

"ดูเตอร์เต"แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ลั่นลุยสงครามยาเสพติดและปราบปรามก่อการร้าย ด้านสภาเตรียมฟื้นกม.ประหารชีวิต

"ดูเตอร์เต"แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ลั่นลุยสงครามยาเสพติดและปราบปรามก่อการร้าย ด้านสภาเตรียมฟื้นกม.ประหารชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า – ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ได้กล่าวขณะการแถลงนโนบายและผลงานประจำปีต่อรัฐสภาในครั้งที่ 2 ว่า เขาจะสั่งเพิ่มกำลังทหารเพื่อต่อสู้กับกลุ่มกบฏที่ก่อเหตุโจมตีกองทัพของรัฐบาลหลายครั้ง นับเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงในประเทศ ตูเตอร์เตกล่าวถึงกรณีการก่อเหตุโจมตีหน่วยงานของรัฐบาลหลายครั้ง โดยฝีมือของกองทัพฝ่ายกบฏ ระบุว่า เขาจะจัดการกับศัตรูของประเทศทุกคน หากฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องการพูดคุย เขาก็ยินดีที่จะไม่เจรจาเช่นกัน  ปล่อยให้สงครามที่ฝ่ายกบฏเป็นผู้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ดำเนินต่อไปอีก 50 ปี จากนี้เขาต้องการขยายกำลังพลอีกหลายหมื่นนาย  เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตจากทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ

ทั้งนี้การแถลงนโยบายดังกล่าวได้รวมถึงการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายที่สร้างความพอใจให้กับชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ถึงแม้จะมีเสียงวิพากย์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและนานาชาติก็ตาม

ปธน.ดูเตอร์เตกล่าวว่า "ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหน การปราบปรามยาเสพติดจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะเป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายและความทุกข์ยาก การต่อสู้จะดำเนินต่อไปแม้ว่า จะถูกกดดันจากนานาชาติ การต่อสู้ก็จะไม่ยุติ จนกว่าพวกที่เกี่ยวข้องจะต้องหยุด ทางเลือกพวกเขามีไม่มาก หากไม่เข้าคุก ก็ลงนรก"

การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของประธานาธิบดีดูเตอร์เตมีขึ้นในช่วงระหว่างที่ฟิลิปปินส์กำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม หลังกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส บุกยึดเมืองมาราวีทางตอนใต้ของประเทศในวันที่ 23 พฤษภาคม ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า เหตุปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 63 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 600 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเมืองเกือบ 100 คน อีกทั้ง ประชาชนอีกราว 500,000 คนต้องย้ายถิ่นฐาน

ทั้งนี้รายงานข่าวยังเผยว่า สภาผู้แทนราษฏรฟิลิปปินส์เตรียมฟื้นโทษกฏหมายกลับมาใช้อีกครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากวุฒิสภาแต่อย่างใด โดยนับตั้งแต่การเข้าดำรงตำแหน่งของดูเตอร์เต รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดมาอย่างหนัก ส่งผลให้มีรายงานผู้ถูกปราบปรามยาเสพติดไปแล้วเกือบ 3,200 ราย