posttoday

ใครบึ้ม? "อิรัก-ไอเอส" โบ้ยอีกฝ่ายพังมัสยิดอายุ800ปี

25 มิถุนายน 2560

"อิรัก"ชี้ "ไอเอส" ทำลายมัสยิดอัลนูรีอายุมากกว่า 800 ปีในเมืองโมซุล ด้านกลุ่มไอเอสโต้เป็นผลจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐ

"อิรัก"ชี้ "ไอเอส" ทำลายมัสยิดอัลนูรีอายุมากกว่า 800 ปีในเมืองโมซุล ด้านกลุ่มไอเอสโต้เป็นผลจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐ

กองทัพอิรักและสหรัฐ เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่เกิดความไม่สงบของเมืองโมซุลว่า กองกำลังของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ทำลายมัสยิดอัลนูรีอายุมากกว่า 800 ปี และหออะซานอัลฮัดบาจนพังลงเหลือแต่ซาก ขณะที่สำนักข่าวอะมักของกลุ่มไอเอสโต้กลับว่า เครื่องบินรบของสหรัฐต่างหากที่เป็นผู้ทิ้งระเบิดทำลายโบราณสถานสำคัญ

ประธานาธิบดี ไฮเดอร์ อัลอะบาดี แห่งอิรัก แถลงว่า หัวหน้าผู้บัญชาการทางทหารได้รายงานก่อนหน้านี้ไม่นานว่า กองกำลังไอเอสได้เคลื่อนพลเข้าใกล้มัสยิดแห่งนี้ ซึ่งมีอายุกว่า 844 ปี ก่อนที่กลุ่มปฏิบัติการร่วมจัดการภัยก่อการร้ายจะพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของสถานที่เกิดระเบิดเสียหาย รวมถึงหออะซานฯ หรือหอคอยสุเหร่าที่มีชื่อเรียกทั่วไปว่าหอค่อม จากลักษณะที่โน้มเอน พร้อมมีภาพถ่ายสถานะปัจจุบันเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกันกับฝั่งกองทัพสหรัฐ ที่สังเกตการณ์ในพื้นที่ โดยทางการอิรักกล่าวถึงการกระทำร้ายแรงครั้งนี้ว่า เปรียบเสมือนการประกาศความพ่ายแพ้ของทางกลุ่ม ขณะที่ทางกลุ่มไอเอสตอบโต้กลับว่า สภาพความเสียหายของมัสยิดเกิดจากการทิ้งระเบิดโจมตีของเครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐ

ทั้งนี้ มัสยิดดังกล่าวมีความสำคัญในฐานะเป็นสถานที่ที่ อบูบักร บัฆดาดี หัวหน้ากลุ่มไอเอสได้ใช้มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่สถาปนารัฐคะลีฟะฮ์ หรือกาหลิป (รัฐบาลที่ผู้ปกครองจะเป็นผู้ดูแลกิจการศาสนาและการปกครองในเวลาเดียวกัน) ประกาศสถาปนาเมื่อต้นเดือน ก.ค.ของปี 2014 หลังจากสังหาร โมฮัมเหม็ด อัลมันซูรี หัวหน้าคณะกรรมการบริหารมัสยิดนี้ ที่ปฏิเสธไม่เข้าร่วมกลุ่มไอเอสด้วย จากข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ

 

ใครบึ้ม? "อิรัก-ไอเอส" โบ้ยอีกฝ่ายพังมัสยิดอายุ800ปี

นับตั้งแต่ปี 2012 หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม อาทิ องค์การสหประชาชาติและทางการอิรัก มีโครงการเข้าไปบูรณะพื้นที่มัสยิดอัลนูรี โดยเฉพาะหออะซานฯ ซึ่งมีโครงสร้างทรุดโทรมลงและเสี่ยงพังถล่มลงมา เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ที่พื้นดินอ่อนลง ผนวกกับการระเบิดพื้นที่ใกล้เคียงจากการสู้รบ

ทว่า นับตั้งแต่กลุ่มไอเอสรุกคืบเข้าไปยึดครองพื้นที่กลางปี 2014 โครงการก็ถูกชะงักลง ขณะที่ประชาชนในพื้นที่เริ่มรายงานช่วงนั้นเลยว่า ไอเอสพยายามทำลายหออะซานฯ ตามแผนทำลายศาสนสถานและสุสาน ทั้งของมุสลิมและศาสนาอื่นๆ เนื่องจากมีลักษณะเป็นรูปปั้นเคารพบูชา ผิดกับหลักที่กลุ่มรัฐอิสลามยึดถือ

ในเวลานั้นกลุ่มติดอาวุธไม่สามารถทำได้ เนื่องจากชาวบ้านลุกฮือกันสร้างกำแพงมนุษย์ล้อมหอคอยเอาไว้ พร้อมกับขู่ว่า ถ้าคิดทำลายสถานที่ต้องข้ามศพพวกเขาไปก่อน กลุ่มติดอาวุธจึงยอมถอยร่นไป แต่ชาวบ้านก็เชื่อว่ากลุ่มไอเอสจะต้องกลับมาลงมืออีกครั้ง กระทั่งล่าสุดภาพถ่ายจากกองทัพอิรักชี้ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ รวมถึงหออะซานฯ ถูกทำลายลงแล้ว

ที่ผ่านมากลุ่มรัฐอิสลามมีประวัติทำลายโบราณสถานสำคัญหลายรายการ ยกตัวอย่างเฉพาะล่าสุด เช่น ต้นปีที่ผ่านมา กองกำลังได้ทำลายพื้นที่บางส่วนของอัฒจันทร์แบบศิลปะโรมันในเมืองโบราณพัลไมราของซีเรีย เมื่อปลายปี 2016 กองทัพอิรักได้เข้าไปสำรวจเมืองโบราณนิมรุด ทางตอนเหนือของประเทศ หลังยึดคืนมาจากไอเอสที่ยึดครองไว้นานกว่า 2 ปี พบว่าสภาพเมืองถูกทำลายล้างจนหมดสภาพเช่นกัน

ภาพ...เอเอฟพี

ที่มา www.m2fnews.com