ผู้ดีลั่นแก้กฎสิทธิมนุษยชน หากขวางทางต้านก่อการร้าย

นายกฯ อังกฤษ พร้อมแก้กฎหมายสิทธิมนุษยชน หากขวางเพิ่มโทษคนร้าย-ส่งกลับผู้ต้องสงสัยต่างชาติ ก่อนหน้าการเลือกตั้งเปิดฉากวันนี้

นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ เปิดเผยในการหาเสียงหนึ่งวันก่อนการเลือกตั้งในวันนี้ว่า พร้อมจะแก้กฎหมายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน หากกฎหมายดังกล่าวขวางทางในการจัดการกับการก่อการร้าย หลังเกิดเหตุก่อการร้ายต่อเนื่อง เช่น เหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่แมนเชสเตอร์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 22 ราย และเหตุการขับรถพุ่งชนและใช้มีดไล่แทงบริเวณสะพานลอนดอน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 8 ราย

เมย์ ระบุว่า อาจเพิ่มโทษด้วยการขยายเวลาจำคุกผู้ก่อเหตุก่อการร้าย รวมถึงเตรียมเปิดทางให้มีการส่งกลับผู้ต้องสงสัยต่างชาติซึ่งอาจก่อเหตุก่อการร้าย กลับประเทศได้ง่ายขึ้น และอาจมีการจำกัดเสรีภาพและการเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น เมื่อหลักฐานเอาผิดไม่เพียงพอเสนอต่อชั้นศาล

"ถ้ากฎหมายสิทธิมนุษยชนมาขวางทางในสิ่งที่เราจะทำ พวกเราจะเปลี่ยนกฎหมายเหล่านั้น" เมย์ กล่าว

การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีอังกฤษถูกโจมตีจากการไม่อาจป้องกันเหตุก่อการร้ายได้ โดยสมัยที่เมย์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยในปี 2010-2016 ได้ปรับลดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปราว 2 หมื่นนาย และยังวางแผนจะลดงบประมาณของตำรวจนครบาลอีก 400 ล้านปอนด์ (ราว 1.7 หมื่นล้านบาท) สร้างความกังวลว่าพรรคอนุรักษนิยมของเมย์อาจคว้าเสียงส่วนใหญ่ในสภาไม่ได้

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษเทียบเหรียญสหรัฐผันผวนอย่างหนักใกล้เคียงกับระดับที่ย่ำแย่ที่สุดเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เมย์ประกาศแผนการพาอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิต

ทั้งนี้ ความผันผวนของค่าเงินยังเกิดขึ้นกับสกุลเงินอื่น โดยค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าเทียบสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแล้ว 1% ระหว่างวันที่ 5-7 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากความกังวลด้านการเมืองสหรัฐกรณีการเตรียมขึ้นให้การครั้งแรกของ เจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ต่อประเด็นประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขัดขวางการสืบสวนอดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงที่มีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย รวมถึงยังมีความกังวลต่อการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

ขณะเดียวกัน ทองคำอยู่ที่ราว 1,291 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ระหว่างการซื้อขายเมื่อวานนี้ หลังปรับขึ้นไปถึง 1.1% ไปแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งสหรัฐในเดือน พ.ย.ที่ 1,295 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์