posttoday

ภัยก่อการร้ายลามอาเซียนหวั่นไอเอสตั้งที่มั่นในภูมิภาค

27 พฤษภาคม 2560

ฟิลิปปินส์วิตกภัยก่อการร้ายลุกลาม หลังพบชาวอินโดนีเซียมาเลเซียพัวพันเหตุรุนแรงในมินดาเนา

ฟิลิปปินส์วิตกภัยก่อการร้ายลุกลาม หลังพบชาวอินโดนีเซียมาเลเซียพัวพันเหตุรุนแรงในมินดาเนา

โฆเซ่ คาลิดา รองอัยการสูงสุดของฟิลิปปินส์ เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า ชาวอินโดนีเซียและมาเลเซียจำนวนหนึ่ง ร่วมมือกับกลุ่มมาอูเต กลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ที่เมืองมาราวีบนเกาะมินดาเนา สร้างความวิตกว่าเหตุก่อการร้ายในประเทศอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับภูมิภาค

"ก่อนหน้านี้ เหตุดังกล่าวเป็นเพียงฝีมือกลุ่มก่อการร้ายในประเทศ แต่ขณะนี้กลายเป็นว่ากลุ่มหัวรุนแรงท้องถิ่นก่อเหตุตามอุดมการณ์ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยทั้งกลุ่มมาอูเตและกลุ่มไอเอสพยายามสร้างจังหวัดของไอเอสขึ้นบนเกาะมินดาเนา" คาลิดา กล่าว

ทั้งนี้ การเปิดเผยของคาลิดาเพิ่มความกังวลว่า กลุ่มไอเอสใช้ปัญหาความยากจนและช่องโหว่ในการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่ดีพอ มาบ่มเพาะแนวคิดสุดโต่งในชุมชนมุสลิมทางใต้ของฟิลิปปินส์ เพื่อใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์บัญชาการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ทางการฟิลิปปินส์ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์เข้าไปในพื้นที่แล้ว โดยขณะนี้มีกลุ่มหัวรุนแรงเสียชีวิตแล้ว 31 ราย แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัว อิสนิลอน ฮาปิลอน หัวหน้ากลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง อาบูไซยาฟ ที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่

ด้านความคืบหน้าเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อนในกรุงจาการ์ตาขออินโดนีเซีย ซึ่งกลุ่มไอเอสอ้างความรับผิดชอบนั้น ขณะนี้ทางการจับผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพิ่ม โดยประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย สั่งให้สมาชิกรัฐสภาเร่งกระบวนการทบทวนกฎหมายต่อต้านก่อการร้าย เพื่อเพิ่มอำนาจให้ตำรวจในการจับกุมตัว และควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยไว้ได้นานสูงสุด 6 เดือน

ขณะเดียวกัน สเตรทไทม์ส รายงานอ้าง อาห์หมัด ซาอิด ฮามีดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่า เหตุก่อการร้ายในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย อาจมีความเกี่ยวข้องกับการสังหาร มูฮัมหมัด วานน์ดี หนึ่งในนักสู้คนสำคัญของกลุ่มไอเอสเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดย วานน์ดี เป็น ผู้ประสานงานไอเอสในอาเซียน

นอกจากนี้ ฮามีดี เสริมว่า มาเลเซียเพิ่มมาตรการรับมือก่อการร้าย โดยยกระดับความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ เช่น อาเซียนโพล เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์

ด้านกระทรวงกิจการภายในสิงคโปร์ ประกาศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเช่นกัน โดยเฉพาะในสถานที่สำคัญๆ และจุดตรวจคนเข้าเมือง พร้อมติดตามภัยก่อการร้ายอย่างใกล้ชิด

ภาพ เอเอฟพี