บีบเกาหลีจ่าย3หมื่นล."ทรัมป์"ชี้ต้องจ่ายค่าระบบต่อต้านขีปนาวุธ

ทรัมป์ขู่ล้มดีลการค้า ลั่นเกาหลีใต้ต้องจ่ายค่าอาวุธ 3.5 หมื่นล้าน ชี้อาจขัดแย้งใหญ่กับเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ต้องการให้เกาหลีใต้จ่ายค่าระบบต่อต้านขีปนาวุธทาดเป็นเงินจำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 3.5 หมื่นล้านบาท) พร้อมระบุด้วยว่าต้องการรื้อการเจรจาครั้งใหม่กับเกาหลีใต้ในข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ผ่านสภาคองเกรสเมื่อปี 2011 ซึ่งทรัมป์ระบุว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมและไม่อาจยอมรับได้

ทั้งนี้ ความเห็นดังกล่าวส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาเชิงลบเป็นวงกว้างทั้งเกาหลีใต้ โดยค่าเงินวอนอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เช่นเดียวกับที่ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นโซลปิดลบ 0.2% อยู่ที่ 2,205.44 จุด ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า สถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ลดลง ทำให้มีทุนไหลเข้าเอเชียในปริมาณมาก ทว่าแนวโน้มความเสี่ยงรอบใหม่กับเกาหลีใต้ครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและเอเชียยังไม่จบง่ายๆ

ด้านชาวเกาหลีใต้เริ่มแสดงปฏิกิริยาต่อต้านการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธทาดที่สหรัฐกำลังลำเลียงมาติดตั้งแล้ว ขณะที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังคงยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับทาด ซึ่งสหรัฐต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายตามที่เคยตกลงกันไว้

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้แสดงความเห็นต่อปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือว่ามีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ขึ้นระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ แม้ว่าสหรัฐจะต้องการแก้ปัญหาผ่านการเจรจาอย่างสันติมากกว่าก็ตาม

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของจีนไม่ยืนยัน หรือปฏิเสธคำกล่าวของ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจีนจะเป็นฝ่ายกดดันเกาหลีเหนือให้หนักขึ้น หากพบว่ามีการทดลองนิวเคลียร์อีกในอนาคต

บรรยายภาพ - ชาวเกาหลีใต้เริ่มแสดงปฏิกิริยาต่อต้านการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธทาดที่สหรัฐกำลังลำเลียงมาติดตั้ง