ระเบิดรถยนต์สังหารชาวซีเรียจำนวนมากที่กำลังรอการอพยพ

เกิดเหตุระเบิดโจมตีบรรดาผู้อพยพชาวซีเรียที่กำลังรอเดินทางออกจากพื้นที่ปิดล้อมของรัฐบาล ยังไม่ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุ 

เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ถูกจุดชนวนขึ้นในระหว่างที่กำลังแล่นผ่านผู้คนจำนวนมากที่กำลังรอขึ้นรถบัส ทั้งหมดเป็นผู้อพยพมาจากเมือง Foua และเมือง Kfraya เมืองที่ตกอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล ขณะนี้สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานยอดผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 43 ราย ด้านกลุ่มอาสาสมัครกู้ภัย White Helmet ที่เข้าช่วยเหลือยังพื้นที่เกิดเหตุระบุยอดผู้เสียชีวิตมากถึงกว่า 100 คน และในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้หญิง และเด็ก

ด้านหอสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวซีเรีย หรือ SOHR รายงาน เหตุระเบิดเกิดขึ้นในเมือง Rashidin ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองอเลปโป บริเวณดังกล่าวเป็นจุดรอรถบัส ชาวซีเรียส่วนใหญ่ที่รอการอพยพนั้นเป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คน

ภาพถ่ายของเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ไปตามสำนักข่าวท้องถิ่นของซีเรีย แสดงให้เห็นกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ซากของรถบัสที่ถูกแรงระเบิด และเพลิงเผาทำลาย ในขณะที่ตามพื้นเต็มไปด้วยร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต

การอพยพครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มกบฏ สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เป็นชาวซีเรียมุสลิมชีอะห์ที่กำลังอยู่ระหว่างการรออพยพกลับไปยังเมืองอเลปโป และเมืองดามัสกัส เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้การอพยพติดขัดตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ในขณะที่การดำเนินการความช่วยเหลิอบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นไปอย่างลำบาก และล่าช้า

เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างอยู่เบื้องหลังการโจมตี ก่อนหน้านี้ชาวซีเรียมุสลิมชีอะห์เคยตกเป็นเป้าโจมตีจากกลุ่มไอเอส และกลุ่มอัลกออิดะห์มาแล้ว

ทั้งนี้รายงานจากสหประชาชาติระบุ ปัจจุบันยังคงมีชาวซีเรียมากกว่า 640,000 คน ที่ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ปิดล้อมของรัฐบาล