สหรัฐหนุนปฏิรูปภาษี

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าปฏิรูปภาษี หลังผิดหวังโหวตร่างกฎหมายประกันสุขภาพใหม่ 

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมผลักดันการปฏิรูปภาษีเป็นวาระสำคัญลำดับแรก หลังร่างกฎหมายประกันสุขภาพใหม่ หรืออเมริกันเฮลธ์์แคร์ ซึ่งทรัมป์ต้องการนำมาใช้แทน โอบามาแคร์ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน

“ตอนนี้เราจะมุ่งไปที่การปฏิรูปภาษี ซึ่งผมอยากทำเช่นนั้นมาโดยตลอด”ทรัมป์ กล่าว

ทั้งนี้ ทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจะลดภาษีนิติบุคคลลงมาอยู่ที่ 20% จาก 35% และปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างชาติด้วยเช่นกัน

ด้าน สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งครอบคลุมทั้งภาษีนิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการของสภาคองเกรสในเดือน ส.ค. อย่างเร็วที่สุด แต่ส่งสัญญาณว่า กระบวนการดังกล่าวมีแนวโน้มเกิดขึ้นในราวฤดูใบไม้ร่วงมากกว่า

“การปฏิรูประบบประกันสุขภาพและภาษีเป็นคนละเรื่องกัน โดยระบบประกันสุขภาพมีความซับซ้อนมาก ต่างจากการปฏิรูปภาษีที่ยุ่งยากน้อยกว่า” มนูชิน กล่าว พร้อมเสริมว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันเห็นพ้องเกี่ยวกับเป้าหมายการปฏิรูปภาษี คือลดความยุ่งยากของกฎหมาย หั่นอัตราภาษี และทำให้เอกชนสหรัฐมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

อย่างไรก็ดี บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับการเก็บภาษีชายแดนจำแนกตามถิ่นที่มา (BAT) ที่จะหักภาษีจากการนำเข้าสินค้าของเอกชนสหรัฐ แต่ไม่นำรายได้จากการส่งออกมาคำนวณภาษี ซึ่งคณะที่ปรึกษาทรัมป์มีความเห็นต่างกัน 2 ฝ่าย โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มองว่า การเก็บภาษีดังกล่าวจะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนระบุว่า ค่าเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่าขึ้น สามารถชดเชยผลกระทบจากราคาสินค้าซึ่งปรับตัวขึ้นดังกล่าวได้

ภาพ...เอเอฟพี