นักวิทย์เตือนหยุดภาวะโลกร้อนคือทางเดียวช่วยเกรตแบร์ริเออร์รีฟ

ผลการศึกษาที่กระตุ้นให้ออสเตรเลียหาวิธีจัดการ และแผนอนุรักษ์แนวปะการังใหม่ เมื่อการหยุดภาวะโลกร้อนคือคำตอบเดียว

หนทางเดียวที่จะสามารถช่วยแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ แนวปะการังที่มีความยาวมากที่สุดในโลก และมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ จากภาวะฟอกขาวที่กำลังเผชิญ คือการช่วยกันหยุดยั้งภาวะโลกร้อน แม้ว่าจะมีมาตรการควบคุมการประมง หรือการปรับปรุงคุณภาพของน้ำก็ตาม

ผลการศึกษาจากภาวะฟอกขาวที่เกิดขึ้นกับแนวปะการัง 3 ครั้งใหญ่ในปี 1998, 2002 และ 2016 ทีมนักวิทยาศาสตร์พบว่าสาเหตุสำคัญคือคลื่นความร้อนใต้น้ำ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Nature นี้ ก่อให้เกิดคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับแผนอนุรักษ์แนวปะการังในระยะยาว ของออสเตรเลีย ซึ่งลงทุนไปกับแคมเปญการปรับปรุงคุณภาพน้ำ ในขณะที่โครงการจัดการกับปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นได้รับความใส่ใจเพียงน้อยนิด

ทั้งนี้นอกจากแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟแล้ว ภาวะโลกร้อนยังส่งผลกระทบให้เกิดภาวะฟอกขาวแก่ปะการังอื่นๆทั่วโลก และภาวะฟอกขาวที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นครั้งแรกที่เกิดติดต่อกันเป็นปีที่สอง หลังภาวะฟอกขาวที่เกิดขึ้นในปี 2016 ส่งผลให้ 22% ของแนวปะการังตายไป

ปรากฏการณ์ฟอกขาวที่เกิดจากอุณหภูมิของน้ำทะเลเพิ่มขึ้นนี้ จะส่งผลให้สาหรายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการัง และมีหน้าที่สร้างสีสัน สังเคราะห์แสงให้แก่ปะการัง รวมถึงเป็นอาหารแก่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการังเหล่านี้ตายลง เมื่อปราศจากพวกมันปะการังจะเผยให้เห็นเนื้อเยื่อหินปูนสีขาวภายในซึ่งเป็นภาวะที่อ่อนแอ ซึ่งหากเป็นอยู่เช่นนั้นในเวลานานๆ ปะการังอาจจะตายภายในระยะเวลา 6 เดือน

อย่างไรก็ตามปะการังนั้นสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ หากระบบนิเวศรอบๆกลับมามีคุณภาพดีอีกครั้ง และปราศจากการรบกวนจากมนุษย์  โดยทั่วไปอาจใช้เวลาราว 3 - 4 ปี กว่าปะการังจะกลับมาแข็งแรงและเติบโตดังเดิม