โรงเรียนสอนคุณยายในอินเดีย เพื่อให้การศึกษาแก่ผู้หญิง
โรงเรียนจิตอาสาประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอินเดีย เพื่อสอนบรรดาคุณย่าคุณยายที่ไม่เคยมีโอกาสเรียน ให้อ่านออกเขียนได้
โรงเรียนจิตอาสาประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอินเดีย เพื่อสอนบรรดาคุณย่าคุณยายที่ไม่เคยมีโอกาสเรียน ให้อ่านออกเขียนได้
ในช่วงเย็นของทุกๆวัน บรรดาคุณย่าคุณยายที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Phangane ในรัฐมหาราษฏระของอินเดีย จะสวมใส่ชุดสาหรี่สีชมพู คว้ากระดานดำ และชอล์กสีใส่กระเป๋า ใช่แล้วพวกเขากำลังเตรียมไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน Aajibaichi Shala
แม้ว่าปัจจุบันผู้หญิงจะมีสิทธิหลายอย่างที่เท่าเทียมกับผู้ชายแล้ว แต่ที่อินเดียกว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงยังคงขาดโอกาสทางการศึกษา พวกเธออ่านหนังสือไม่ออก และเขียนไม่ได้ เมื่อมีจดหมายเดินทางมาถึงยังบ้านผู้หญิงเหล่านี้จะประสบปัญหาทุกครั้ง เพราะพวกเธอไม่เคยได้รับการศึกษา
แต่ทุกวันนี้ (เว้นวันพฤหัสบดี) บรรดาหญิงชาวอินเดียในหมู่บ้านมีโอกาสได้เรียนหนังสืออีกครั้ง ไม่ว่าพวกเธอจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตามเนื่องในวันสตรีสากล วันที่ 8 มีนาคมนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการเฉลิมฉลองช่วงเวลาครบรอบ 1 ปีของโรงเรียนนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา Satyaki Ghosh ช่างภาพได้เดินทางไปเก็บภาพถ่ายยังโรงเรียนแห่งนี้มาให้ได้ชมกัน
Ansuya Deshmukh วัย 90 ปี ลูกสาวของชนชั้นแรงงาน เธอถูกบังคับแต่งงานตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ "ที่บ้านไม่มีเงินพอที่จะซื้อกระดาน หรือหนังสือ รวมไปถึงเสื้อผ้า" เธอกล่าว "ฉันเคยไปโรงเรียนเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปทุกวัน และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันป่วยนอนซท ดังนั้นพ่อแม่เลยเลิกส่งฉันไปเรียน"ปัจจุบัน Ansuya สามารถเขียนชื่อของตัวเองได้แล้ว และสามารถนับเลขได้ถึงจำนวนที่ 21
โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย Ypgendra Bangar ชายวัย 41 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นขึ้นเมื่อหญิงสาวในหมู่บ้านกล่าวกับเขาว่า ถ้าพวกเธอสามารถอ่านหนังสือออก พวกเธอก็จะสามารถอ่านประวัติของ Chatrapati Shivaji Maharaj กษัตริย์ที่มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งหมู่บ้านเฉลิมฉลองพิธีให้แก่เขาทุกๆปีได้
"ว่ากันว่าผู้หญิงควรต้องได้รับความเคารพนับถือในวันสตรีสากล ดังนั้นเราเลยนึกถึงคุณย่าคุณยายของเรา ผู้ที่ไม่เคยได้รับเกียรติ และการเคารพ" เขากล่าว "ผู้คนรุ่นย่ารุ่นยายของเราล้วนไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนหนังสือ"Bangar ระดมทุนจากองค์กรการกุศล เพื่อช่วยให้ไอเดียของเขาเป็นจริงขึ้นมาได้ "ถ้าผู้หญิงได้รับการศึกษา สมาชิกครอบครัวทุกคนได้เรียนหนังสือ พวกเธอจะนำความรู้ และแสงสว่างเข้ามาสู่บ้าน" เขากล่าว
Ramabhai Ganpat เดินไปโรงเรียนพร้อมกับหลานของเธอ "มันรู้สึกดีมาก" เธอกล่าว "พวกเรารักที่จะไปโรงเรียน เราหิ้วกระเป๋าและเดินไปโรงเรียนพร้อมๆกัน และเราภูมิใจที่ได้เรียนหนังสือ"
"ถ้าพวกเราตายไป และได้พบกับพระเจ้า ถ้าพระองค์ถามว่าชีวิตนี้ได้ทำอะไรมาแล้วบ้าง เราจะบอกพระองค์ว่าเราได้เรียนหนังสือ และเขียนชื่อตัวเองได้แล้ว"
ก่อนเริ่มต้นคลาสเรียนของทุกวัน พวกเธอจะสวดมนต์ร่วมกันถึงพระแม่สุรัสวดี เทพธิดาแห่งความรู้ และความฉลาด รวมถึงช่วยกันรดน้ำต้นไม้ที่ทุกคนช่วยกันปลูกไว้ในโรงเรียน
ตลอดปีที่ผ่านมาของการก่อตั้งโรงเรียน มีบ้างที่สมาชิกนักเรียนบางคนเสียชีวิต หรือย้ายออกจากหมู่บ้านไป ปัจจุบันจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนมีอยู่ประมาณ 28 - 30 คน และแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้รับความรู้ขั้นสูงเหมือนอย่างนักศึกษาจริงๆ ด้วยอายุที่มากแล้ว และยากที่จะจดจำเนื้อหาเรียน แต่เพียงแค่ทุกคนสามารถเขียนชื่อของตนเองได้นั้น ก็นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว