posttoday

ปิดฉากฮันจินชิปปิ้งเบอร์7โลก

18 กุมภาพันธ์ 2560

ศาลเกาหลีใต้สั่งให้ ฮันจิน ยักษ์ชิปปิ้งโลกเบอร์ 7 ล้มละลายแล้ว หลังหนี้ท่วม 1.8 แสนล้าน

ศาลเกาหลีใต้สั่งให้ ฮันจิน ยักษ์ชิปปิ้งโลกเบอร์ 7 ล้มละลายแล้ว หลังหนี้ท่วม 1.8 แสนล้าน

ศาลแขวงกรุงโซล เกาหลีใต้ ได้ประกาศให้บริษัท ฮันจิน ชิปปิ้ง ล้มละลายแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ปิดฉาก 40 ปีอดีตบริษัทชิปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ และใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก หลังจากประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักมาหลายปี และไม่สามารถขอกู้เพิ่มเพื่อพยุงกิจการได้ จนต้องมีการตัดขายสินทรัพย์และปลดพนักงานเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้

แถลงการณ์ของศาล ระบุว่า จะพยายามดำเนินการผ่านกระบวนการพิทักษ์ทรัพย์เพื่อให้มั่นใจว่า บรรดา เจ้าหนี้จะได้รับการชำระหนี้คืนได้มากที่สุด โดยจะมีการประชุมเจ้าหนี้นัดแรกในวันที่ 1 มิ.ย.นี้

ด้านการซื้อขายหุ้นของบริษัท ฮันจิน ชิปปิ้ง ได้ถูกระงับลงในวันเดียวกัน

ทั้งนี้ ฮันจินได้ยื่นเรื่องขอพิทักษ์ทรัพย์จากศาลล้มละลายเมื่อเดือน ส.ค. 2016 ท่ามกลางหนี้สินราว 5,370 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.87 แสนล้านบาท) หลังจากบรรดาเจ้าหนี้ปฏิเสธให้การช่วยเหลือ ส่งผลให้บริษัทขาดสภาพคล่องอย่างหนัก และเรือขนส่งสินค้าจำนวนมากจากทั้งหมด 141 ลำ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเทียบท่าบรรดาท่าเรือขนาดใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากค้างชำระหนี้

บริษัทบัญชีที่ได้รับการมอบหมายจากศาล ได้ให้ความเห็นสรุปก่อนหน้านี้ว่า หนี้สินของบริษัทจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากหากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป ส่งผลให้ฮันจินซึ่งเคยเป็นอาณาจักร ชิปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 7 ของโลก ต้องตัดขายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศเกือบทั้งหมดออกไปเพื่อชำระหนี้สิน และมีการปลดพนักงานเกือบทั้งหมดจาก 1,500 คน หลังจากที่มีการทยอยปลดพนักงานไปก่อนหน้านี้แล้ว

การปิดฉากของฮันจิน ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจครอบครัว (แชโบล) เครือฮันจิน กรุ๊ป นับเป็นการล้มละลายของบริษัทชิปปิ้งครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ข่าวการสั่นคลอนของยักษ์ใหญ่ในวงการเดินเรือเกาหลีใต้รายนี้ ยังสร้างความสั่นคลอนต่ออุตสาหกรรมชิปปิ้งทั่วโลกอย่างหนักตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากต้องแบกรับผลกระทบจากการค้าโลกที่ซบเซา

ทั้งนี้ ในญี่ปุ่นมีการประกาศควบ รวมกิจการระหว่างบริษัทชิปปิ้งรายใหญ่ ที่สุด 3 แห่งในประเทศ คือ บริษัท นิปปอน ยูเซน เค.เค. บริษัท มิตซุย โอ.เอส.เค.ไลน์ส และบริษัท คาวาซากิ คิเซ็น ไคชา บรรลุข้อตกลงสปินออฟหน่วยให้บริการคอนเทนเนอร์เพื่อตั้งเป็นธุรกิจร่วมทุนแห่งใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นบริษัทชิปปิ้งรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ท่ามกลางอุตสาหกรรมชิปปิ้ง ทั่วโลกที่อยู่ในช่วงขาลง ขณะที่ บริษัท เอ พี โมลเลอร์ เมอร์สก์ ซึ่งเป็นชิปปิ้งเบอร์ 1 ของโลก เพิ่งรายงานผลประกอบการปี 2016 ขาดทุนเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ปี 2009 ที่ 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.64 หมื่นล้านบาท)