อีซีบี-ทรัมป์ดันหุ้นโลกพุ่ง1ปี

ดัชนีหุ้นโลกทะยานสูงสุด 1 ปี ฝั่งสหรัฐทุบสถิติรอบใหม่ หลังได้แรงหนุนจากอีซีบี เชื่อเป็นสัญญาณบวกมากกว่าถอนเงินออก

รอยเตอร์สรายงานว่า ดัชนีเอ็มเอสซีไอ เวิลด์ อินเด็กซ์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ทะยานไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2015 และปิดตลาดสุดสัปดาห์ในวันที่ 9 ธ.ค.ลดลงมาเล็กน้อย 0.1% เท่านั้น หลังได้ปัจจัยบวกที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขยายมาตรการซื้อคืนสินทรัพย์ (คิวอี) ออกไปอีก 9 เดือน เป็นสิ้นปี 2017 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และแม้จะลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์จาก 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็น 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน แต่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณบวกถึงความพร้อมของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งหนุนปัจจัยบวกในสหรัฐอีกทาง

ทั้งนี้ หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน และคาดว่าจะปิดตลาดรอบสัปดาห์ได้สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ที่ปรับตัวลดลง คาดว่าจะปิดบวกทั้งสัปดาห์ ขึ้น 9.2%

"ตลาดตื่นเต้นกับมาตรการลงทุนของ โดนัลด์ ทรัมป์ ตามที่หาเสียงไว้อยู่แล้ว และเมื่อยิ่งได้แรงหนุนอีกทางจากอีซีบี จึงเหมือนกับได้แรงหนุนของมาตรการ ทางการเงินและการคลังไปพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีมากสำหรับนักลงทุน" ไมค์ ฟาน ดัลเคน หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ของแอคเซนโด มาร์เก็ต กล่าว

บลูมเบิร์กรายงานว่า การขยายคิวอีของอีซีบีมีผลบวกมากกว่าลบเมื่อเทียบกับประเด็นการลดวงเงินคิวอีต่อเดือนลง หรือการเริ่มถอนมาตรการกระตุ้น เนื่องจากในปีหน้ายุโรปยังเต็มไปด้วยความเสี่ยงทางการเมืองกับการเลือกตั้งใน 3 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เริ่มต้นด้วยเนเธอร์แลนด์ในเดือน มี.ค. ฝรั่งเศสในเดือน มิ.ย. และเยอรมนีในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ในขณะที่กระแสประชานิยมและการเมืองขวาจัดกำลังขยายวงในยุโรป ซึ่งอิตาลีเองเพิ่งเผชิญปัญหาการไม่รับประชามติจนนายกรัฐมนตรีต้องประกาศลาออก

"วิธีของอีซีบีนับว่าฉลาดมาก โดยให้ขยายอายุคิวอีออกไปถึง 9 เดือน พร้อมกับเปิดโอกาสที่จะดำเนินมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ทำให้ตลาดไม่มุ่งไปยังเรื่องของการลดวงเงิน หรือเริ่มถอนมาตรการออกมากนัก" ทิม กราฟ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ของสเตท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ กล่าว
 
ด้าน เบอร์นัวต์ กูร์เร กรรมการบริหารในอีซีบี กล่าวว่า ผลการตัดสินใจของ อีซีบีในสัปดาห์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยุโรป อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยเสี่ยงเกิดขึ้นในวงกว้าง และทำให้กลุ่มยูโรโซนยังจำเป็นต้องได้รับการปกป้องไปจนตลอดปี 2017

"มีปัจจัยเสี่ยงเกิดขึ้นทุกที่ ทั้งในและนอกยูโรโซน ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับอีซีบีในการจัดการความเสี่ยงทางการเมืองเหล่านั้น แต่เป็นเรื่องที่นักการเมืองต้องทำ อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่เราต้อง เตรียมรับมือถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น และยูโรโซนก็ยังจำเป็นต้องได้รับการปกป้องไปตลอดทั้งปี 2017 ซึ่งยังเป็นปีที่เสี่ยงมากอยู่" กูร์เร กล่าว

ภาพ เอเอฟพี