posttoday

อุตสาหกรรมข้าวของเวียดนาม กำลังเผชิญผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

02 พฤศจิกายน 2559

เวียดนามและนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ กำลังร่วมกันพัฒนาข้าวสายพันธ์ใหม่ที่สามารถต้านทานความเค็ม และความแห้งแล้งได้

เวียดนามและนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ กำลังร่วมกันพัฒนาข้าวสายพันธ์ใหม่ที่สามารถต้านทานความเค็ม และความแห้งแล้งได้

ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งในผู้ผลิตข้าวมากที่สุดของโลก แต่ขณะนี้บรรดาชาวนากำลังเผชิญกับความท้าทาย เมื่ออุตสาหกรรมข้าวของพวกเขากำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ และการไหลที่ไม่สม่ำเสมอของแม่น้ำโขง

รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปการผลิตข้าวให้ได้คุณภาพมากขึ้น รวมไปถึงการปลูกพืชอย่างยั่งยืน เวียดนามผลิตข้าวเป็นอาหารให้กับชาวเอเชียกว่า 145 ล้านคน จากผลผลิตที่ครอบลคุมพื้นที่ 13 จังหวัดในเวียดนาม

อุตสาหกรรมข้าวของเวียดนาม กำลังเผชิญผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า ภัยแล้งในปีนี้ส่งผลให้ปริมาณการผลิตข้าวลดลงถึง 1.1 ล้านตัน ด้าน Philip Hirsch ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ระบุว่าผลกระทบจากภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้ภัยพิบัติมีความรุนแรงมากขึ้น

ภาวะโลกร้อนไม่ได้เพียงแต่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้พายุรุนแรงขึ้นอีกด้วย อีกหนึ่งความกังวลคือปริมาณความเค็มของน้ำ ที่น้ำเค็มจากทะเลจีนใต้ได้แผ่เข้าไปในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง และส่งผลต่อการเกษตร Hirsch กล่าว

สำหรับผู้คนกว่า 17 ล้านคนจากประชากรเวียดนามทั่วประเทศกว่า 90 ล้านคน เขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่เป็นพื้นที่ราบกว้างใหญ่และอากาศร้อนชื้นแห่งนี้ มีเครือข่ายทางน้ำที่มีความสำคัญอย่างที่สุดต่อการปลูกข้าว ทางน้ำแยกย่อยมากมายเหล่านี้ได้น้ำจากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้นน้ำของแม่น้ำโขงอยู่ในเขตที่ราบสูงทิเบต จากนั้นก็ไหลระเรื่อยลงมาเป็นระยะทางยาว 4,880 กิโลเมตร ผ่านตอนใต้ของจีน, แตะดินแดนพม่าและไทย, แล้วจึงไหลเลี้ยวลดคดเคี้ยวเข้าไปในลาว, กัมพูชา, และเวียดนาม ก่อนไหลลงสู่ทะเลจีนใต้

ขณะนี้บรรดานักวิทยาศาสตร์นานาชาติ กำลังทำงานร่วมกับชาวเวียดนามเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว โปรเจคนี้มีชื่อว่า CLUES ซึ่ง ด็อกเตอร์ N.D. Phong อธิบายให้ฟังว่า ประเด็นสำคัญคือดินในพื้นที่เพาะปลูกต้องต่อสู้กับความเค็ม, อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของมลพิษ ดังนั้น CLUES และนักวิทยาศาสตร์จึงร่วมกันพัฒนาข้าวสายพันธ์ใหม่ ที่จะทนต่อความเค็มที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงความแห้งแล้งด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน สำหรับการปลูกข้าวในภูมิภาคนี้

นอกจากนั้นอุตสาหกรรมข้าวในเวียดนามกำลังเผชิญกับอีกหนึ่งปัญหาใหญ่นั่นคือ การเพิ่มขึ้นของเขื่อน ในแม่น้ำแม่โขง โดยเฉพาะจีน, ลาว และแคนาดา คริส บาร์ลอว์ จากศูนย์วิจัยการเกษตรระหว่างประเทศในออสเตรเลียกล่าวว่า เขื่อนกำลังส่งผลกระทบต่อแม่น้ำโขงช่วงปลาย ซึ่งเป็นภูมิภาคปลูกข้าวหลัก ของเวียดนาม

อุตสาหกรรมข้าวของเวียดนาม กำลังเผชิญผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

จีนเพิ่งจะสร้างเขื่อน 3 แห่งสำเร็จไป และมีอีก 5 แห่งที่อยู่ในแผนการ เขื่อนเหล่านี้มีผลต่อการไหลของแม่น้ำ และการปิดกั้นปลาให้ไม่สามารถอพยพตามฤดูกาลได้ บาร์ลอว์กล่าว

ส่วนในลาวเองมีแผนที่จะสร้างเขื่อนถึง 9 แห่งด้วยกัน ในจำนวนนี้มี 2 แห่งที่สร้างเสร็จไปแล้ว และในกัมพูชา อนาคตก็จะมีเขื่อนอีก 2 แห่ง แน่นอนเขื่อนเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการสร้างพลังงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่สำหรับการประมง และสิ่งแวดล้อมแล้ว เขื่อนเหล่านี้ส่ลผลร้ายอย่างมาก ซึ่งจะทำให้แม่น้ำเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว