ชดใช้พันล้านเยนให้ครอบครัวผู้สูญเสียลูกๆ จากเหตุสึนามิเมื่อ 5 ปีก่อน

ศาลญี่ปุ่นตัดสินให้รัฐบาลท้องถิ่นชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตจากคลื่นสึนามิ หลังโรงเรียนตัดสินใจอพยพช้าเกินไป

ศาลญี่ปุ่นตัดสินให้ครอบครัวของเด็กนักเรียน 23 คนที่เสียชีวิตจากคลื่นสึนามิ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 ได้รับเงินชดใช้ครอบครัวละหลายล้านปอนด์ หลังคุณครูไม่ตัดสินใจพาเด็กๆอพยพไปยังที่ปลอดภัย แม้จะมีการแจ้งเตือนจากทางการแล้วก็ตาม

จำนวนเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตในโรงเรียนโอกาว่า ของเมืองอิชิโนมากิมี 74 คน และคุณครูอีก 10 คน ภัยพิบัติคลื่นสึนามิเกิดขึ้นมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูดขึ้น ที่อ่าวทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 18,500 คน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ติดทะเล ของจังหวัดอิวาเตะ และมิยากิ

ศาลญี่ปุ่นได้พิจารณาพบว่า คุณครูใช้เวลารอที่สนามของโรงเรียนนานถึง 45 นาที กว่าจะอพยพเด็กๆขึ้นไปบนเนินเขาหลังโรงเรียน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก เพราะหลังจากอพยพไม่ถึงนาทีคลื่นสึนามิก็ถาโถมเข้ามา และมีเพียงเด็กนักเรียน 34 คน กับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอีก 3 คนเท่านั้นที่รอดชีวิต

ครอบครัวของเด็กนักเรียนผู้เสียชีวิตกล่าวว่า โรงเรียนควรคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดคลื่นสึนามิขึ้น และพาเด็กๆหนีขึ้นไปบนเขาตั้งแต่แรก แทนที่จะนั่งรออยู่เช่นนั้น ด้านเคนจิ ทากามิยะ ผู้พิพากษาตัดสินให้รัฐบาลท้องถิ่น 2 แห่งจ่ายค่าชดใช้ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรวมเป็นเงิน 1.43 พันล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 483 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้บรรดาครอบครัวได้เรียกร้องค่าชดใช้เป็นจำนวน 2.3 พันล้านเยน หรือตกราวครอบครัวละ 100 ล้านเยน

ทันทีที่การพิจารณาเสร็จสิ้น บรรดาญาติๆของนักเรียนผู้เสียชีวิตต่างแสดงความดีใจ หนึ่งในนั้นกล่าวว่า พวกเขาชนะแล้ว และในที่สุดเสียงของเด็กก็ถูกได้ยินเสียที คาสุตากะ ซาโต้ ผู้สูญเสียลูกชายไปกล่าวว่า เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกชายของเธอจึงต้องมาตาย เธอถามคำถามนี้มาตลอดห้าปีที่ผ่านมา และเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวด ที่เธอต้องการให้บรรดาคุณครูเข้าใจความรู้สึกนี้

ด้านนายกเทศมนตรีของเมืองอิชิโนมากิกล่าวกับสำนักข่าวว่าเขาจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยอ้างว่าโรงเรียนตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งถึง 4 กิโลเมตร และอยู่นอกพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ ดังนั้นพวกเขาจึงคาดไม่ถึงว่าคลื่นสึนามิจะถาโถมเข้ามาถึงภายในโรงเรียน