Rainbow Center ศูนย์การเรียนรู้แก่เด็กๆ และอนาคตของซีเรีย

ศูนย์การเรียนรู้เพื่อเด็กๆผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ในตุรกี เพื่อมอบอนาคตแก่พวกเขาอีกครั้ง เพราะปัจจุบันมีเด็กผู้ลี้ภัยนับล้านคนที่ไม่ได้เรียนและต้องไปทำงานที่โรงงานแทน

เมื่อ Rahaf Alewi เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ต้องจากบ้านในอเลปโป ของซีเรีย ความทรงจำที่เธอมีต่อประเทศบ้านเกิดไม่ได้เกี่ยวข้องกับระเบิด หรือสงครามแต่อย่างใด ภาพวาดของหมู่บ้านที่มีพระอาทิตย์สาดส่อง, ต้นไม้เขียวชอุ่ม, ท้องฟ้าสดใส และที่พื้นดินมีดอกไม้ผลิบาน ได้แสดงให้เห็นว่าความทรงจำที่เธอมีต่อซีเรียนั้นงดงามขนาดไหน

Alewi เป็นเพียง 1 ใน เด็กจำนวน 3 ล้านคนที่ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย ครอบครัวของเธอเดินทางมายังเมืองกาเซียนเทป ของตุรกีเมื่อปีที่ผ่านมา บรรดาเด็กนับล้านคนเหล่านี้ เกินกว่าครึ่งถูกบังคับให้ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และไม่ได้รับการศึกษาต่อ และเด็กหลายคนต้องไปทำงานยังโรงงานแทนเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรือาจใช้ชีวิตอยู่ตามท้องถนนคอยขายกระดาษทิชชู่ และหมากฝรั่งเพื่อรายได้เล็กๆน้อยๆในการจุนเจือครอบครัว

"ถ้าสูญเสียเด็กๆเหล่านี้ไป โลกจะสูญเสียซีเรียไปด้วย" คำกล่าวจาก Salim Abdul Ghani ผู้บริหารองค์การกุศล Rainbow Center ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อคืนการศึกษาให้แก่เด็กๆชาวซีเรีย

เขากล่าวว่า ให้ลองจินตนการภาพเด็กๆเหล่านี้กำลังคุ้ยขยะอยู่ริมถนน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ ก่อนเกิดสงครามพวกเขาไปโรงเรียน และมีชีวิตเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆทั่วโลก ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องช่วยเหลือพวกเขา เพราะเด็กเหล่านี้คืออนาคตที่จะฟื้นฟูซีเรียให้กลับมาดังเดิมได้

Rainbow Center เปิดมาได้ปีกว่าแล้ว ที่นี่ประกอบด้วยห้องกิจกรรมหลายห้อง และลานอเนกประสงค์ไว้สำหรับเป็นสนามเด็กเล่น ที่นี่มีเด็กๆมาเข้าเรียนมากกว่า 60 คนแล้ว ด้วยจำนวนอาสาสมัคร 21 คน เด็กๆจะได้เรียนการวาดภาพ, การละคร และดนตรี นอกจากนั้นยังมีห้องเรียนภาษาที่ช่วยสอนภาษาอังกฤษ และอารบิกให้แก่เด็กๆ รวมถึงได้รับการประเมินสภาพจิตใจโดยนักจิตวิทยา เพื่อดูว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือใดๆเป็นพิเศษอีกด้วย

บาดแผลจากสงคราม และการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสถานที่ต่างภาษา และต่างวัฒนธรรมเป็นเรื่องยากในการปรับตัว เด็กบางคนมีอาการก้าวร้าวต่อต้าน บางคนมีอาการพูดติดอ่าง หรือฉี่รดที่นอน แน่นอนว่าต้องใช้เวลาในการเยียวยาพวกเขา Ghani กล่าว

Ghani เล่าด้วยดวงตาสดใสขณะมองดูเด็กๆกำลังเล่นในสนามว่า มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาจากดินแดนที่ถูกปกครองโอยกลุ่มไอเอส เขาปฏิเสธที่จะพูดและสุงสิงกับใคร และชอบนั่งหลบอยู่คนเดียว เจ็ดเดือนต่อมาในที่สุดเขาก็มีเสียงหัวเราะอีกครั้ง

ทางศูนย์ยอมรับว่าสามารถพัฒนาได้ดีกว่านี้ หากมีเงินทุนสนับสนุน อย่างไรก็ตามบรรดาอาสาสมัครกล่าวว่าพวกเขามีความสุขดีกับทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ แม้ว่าจะเหลือห้องเรียนเพียงห้องเดียวก็ตาม เพราะถ้าเด็กๆไม่มาที่นี่ พวกเขาจะกลับไปใช้ชีวิตตามถนนอีกครั้ง...

และล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาสำนักข่าว Reuters ได้เผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศด้วยโดรน ของสภาพบ้านเมืองในซีเรียปัจจุบัน แน่นอนว่าไม่มีสายรุ้ง และดอกไม้ผลิบานตามภาพวาดจากความทรงจำของเด็กๆอีกแล้ว แต่ซีเรียสามารถฟื้นฟูขึ้นใหม่ได้ ตราบใดที่เด็กๆเหล่านี้ไม่ถูกทิ้งขว้าง

 

ขอบคุณ Aljazeera และ Reuters