'บีโอเจ'เบนเข็ม ลุยดอกเบี้ยติดลบ

 แหล่งข่าวเผยบีโอเจหันพึ่งดอกเบี้ยติดลบเพิ่มแทนการซื้อพันธบัตร ฉุดหุ้นแบงก์ญี่ปุ่นร่วงหนัก

รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะพิจารณาให้อัตราดอกเบี้ยติดลบ เป็นแกนหลักของนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากการมุ่งเน้นเพิ่มฐานเงินด้วยโครงการซื้อคืนสินทรัพย์ (คิวอี) ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเน้นย้ำความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับขีดจำกัดของมาตรการคิวอี ซึ่งการทำคิวอีตลอด 3 ปีของบีโอเจทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องในตลาดพันธบัตร

“บีโอเจมีแนวโน้มเปลี่ยนไปให้ความสำคัญลำดับแรกสู่การใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ แทนการซื้อพันธบัตรวงเงินมหาศาล” แหล่งข่าว กล่าว

นอกจากนี้ บีโอเจมีแนวโน้มคงเป้าหมายฐานเงิน และระยะเวลาการทำคิวอี โดยอาจลดการซื้อคืนพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลเพื่อให้สถาบันการเงินต่างๆ มีโอกาสในการทำกำไรเพิ่มขึ้น แต่อาจเพิ่มการซื้อพันธบัตรระยะสั้นแทน

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมการนโยบายของบีโอเจยังไม่ตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการปรับให้อัตราดอกเบี้ยติดลบยิ่งขึ้น ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. เนื่องจากต้องการดูทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนก่อน

รายงานระบุว่า บีโอเจหวังว่าการเปลี่ยนให้อัตราดอกเบี้ยติดลบเป็นแกนหลักของนโยบาย อาจช่วยจัดการการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งปรับตัวขึ้นเกือบ 17% แล้วในปีนี้

ทั้งนี้ ข่าวคาดการณ์บีโอเจใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบมากยิ่งขึ้น จากในปัจจุบันที่ติดลบ 0.1% ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารในดัชนีตลาดหุ้นโทปิกซ์ของญี่ปุ่นปรับตัวลง 1.6% ซึ่งร่วงลงมา 29% แล้วในปีนี้

บลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ปรับตัวลง 3.2% ขณะที่หุ้นซูมิโตโมะ มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ลดลง 1% โดยอัตราดอกเบี้ยติดลบส่งผลให้ผลกำไรของธนาคารต่างๆ ในญี่ปุ่นลดลง

ภาพเอเอฟพี